จากกรณีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี กับพรรคพวกวัยรุ่นประมาณ 13-14 คน ได้เดินทางมาเที่ยวชายหาดบางแสนโดยใช้รถตู้เป็นพาหนะ หลังจากนั้นได้เดินทางกลับบ้านพักที่กรุงเทพฯ ระหว่างทางได้พักแวะที่บริเวณสามแยกตลาดอ่างศิลา ถนนสายอ่างศิลา-สุขุมวิท ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี เพื่อจอดรถซื้อของฝากกลับบ้าน และได้มีการจอดรถขวางหน้ารถมาสด้าสีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ฌต 5079 กรุงเทพฯ โดยมีนายสุเทพ โภชนสมบูรณ์ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร ชาวกรุงเทพฯ เป็นคนขับ เป็นเหตุให้รถขยับไม่ได้ กลุ่มวัยรุ่นได้กรูไปที่รถเก๋งคล้ายมีเรื่องชกต่อยกัน หลังจากนั้นเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เป็นเหตุให้นายนวพลถูกยิงเข้าบริเวณราวนมซ้ายกระสุนฝังในอาการสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี
อย่างไรก็ตามล่าสุดนางมณีพร ผึ่งผาย อายุ 47 ปี แม่ของนายนวพลได้ขอความเป็นธรรมให้บุตรชายด้วย หลังจากโดนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างหนาหู พร้อมกับถามกลับด้วยว่านายสุเทพจิตปกติหรือไม่ แค่มาเที่ยวต้องพกปืน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ในแฟนเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 ได้เผยหลักฐานใหม่เป็นภาพเหตุการณ์ที่บันทึกจากกล้องติดหน้ารถของนายสุเทพ ซึ่งแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่นายนวพลและพรรคพวกกรูเข้ามายังรถของนายสุเทพ แม้ทางนายสุเทพจะร้องขอให้หยุดแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หยุด ยังคงตะโกนท้าทายอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถอยออกไปหลังจากเกิดเสียงปืนดังขึ้น
โดยนายสุเทพ เล่าว่า เหตุการณ์เริ่มต้นจากร้านขายของฝาก ตอนนั้นลุงนั่งอยู่ในรถ ตอนเมียกับแม่ไปซื้อของ พอซื้อของกันเสร็จ รถตู้มาจอดขนาบข้างจนลุงขับออกไปไม่ได้ ถอยก็ไม่ได้เพราะมีรถจอดอยู่อีกคัน ตอนหลังถึงรู้ว่าเป็นพวกเดียวกัน แกเลยบอกดีๆให้คนขับขยับรถให้ที ทางกลุ่มวัยรุ่นก็ไม่พอใจหาว่าเร่ง ก็ยียวนกลับมา ลุงก็ไม่พอใจเลยเกิดการปะทะคมรมกันขึ้น
สุดท้ายก็แยกย้ายกันไป รถตู้เลื่อนรถ ลุงก็ขับออกจากร้านมุ่งตรงกลับกรุงเทพ สักพัก เห็นรถตู้ขับตามหลังมา เปิดไฟสูงใส่รัวๆ บีบแตรสนั่นเมือง ไล่บี้ ลุงก็ขับหนี ตอนนั้นคิดว่าคู่กรณีมีแค่รถตู้ แต่คิดผิด เพราะพอถึงแถวๆสะพานปลา มีรถวีออสขนาบเข้ามาด้านข้าง เปิดกระจกตะโกนด่า ลุงได้ยินไม่ชัดมากเพราะปิดกระจก แต่รู้ว่าอีกฝ่ายหัวร้อนและโมโหมาก ด้านข้างมีวีออส ด้านหลังรถตู้บีบแตรเปิดไฟสูงใส่ไม่หยุด ลุงเห็นท่าไม่ดีเลยตั้งใจจะขับรถไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างนั้นเมียก็เลยถ่ายภาพกลุ่มวัยรุ่นที่มาหาเรื่องเอาไว้ ทางฝั่งวัยรุ่นเห็นยิ่งหัวร้อน ไล่บี้กันมาเรื่อยจนลุงเห็นรถกู้ภัยเลยรีบจอดจะไปขอความช่วยเหลือ โดยเมียรีบลงรถไปก่อน สักพักเห็นวัยรุ่น6-7คน มุ่งตรงมาที่รถ เปิดประตูแล้วพุ่งเข้ามาต่อยไม่ยั้งจนแว่นแตก ลุงร้องขอ
“พอเถอะๆ ในรถมีคนแก่และเด็ก”
แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ไม่มีท่าทีจะถอย จังหวะที่ตัดสินใจยิงคือ มีคนพยายามเปิดประตูฝั่งหลาน ลุงเลยคิดว่าถ้าจังหวะนั้นไม่สวนกลับไปบ้างคงเป็นอันตรายทั้งครอบครัว จึงตัดสินใจยิงสวนทั้งๆที่มองไม่ชัดเพราะแว่นแตก ในขณะที่ยังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ จนอีกฝ่ายเสียชีวิต ซึ่งลุงไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก และตอนนี้ก็หวาดกลัวมาก เนื่องจากถูกข่มขู่ทั้งตอนที่วิวาทกันต่อหน้าตำรวจและในโซเชียล ลุงบอกช่วงนี้ขอพักสื่อก่อน แต่ยินดีบอกควีนเพราะเห็นควีนเขียนช่วยมาตั้งแต่วันก่อน และลุงยืนยันมีภาพหลักฐานและชิ้นส่วนซากแว่น รอให้หายปวดหัวก่อนจะส่งให้ เพราะตอนนี้ปวดหัวมาก แกเมาหมัดและเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ส่วนอาม่าชัชชาติที่กลุ่มวัยรุ่นบอกว่าเปิดก่อน ใส่ก่อน เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเพราะล้มและขาอักเสบ แอดมิตอยู่สองสัปดาห์