วันที่ 28 สิงหาคม 2566 เวลา 09.00 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย พระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์ และศาลพ่อปู่ชินพรหมมา เนื่องในโอกาสอำลาตำแหน่ง โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่นเต็มพื้นที่โถงด้านล่างกระทรวงแรงงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงานเสร็จสิ้นแล้ว นายสุชาติได้รับมอบดอกไม้พร้อมพบปะพูดคุยด้วยความเป็นกันเองกับคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่หน่วยงาน
ในสังกัดกระทรวงแรงงาน โดยแต่ละหน่วยงานต่างมีป้ายข้อความให้กำลังใจ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความผูกพันที่ข้าราชการกระทรวงแรงงานพร้อมใจกันแสดงออกต่อรัฐมนตรีสุชาติ
กลุ่มข้าราชการกระทรวงแรงงานอาวุโสเปิดเผยว่า ข้าราชการกระทรวงแรงงาน ต่างประทับใจในตัวท่านรัฐมนตรีสุชาติ ชมกลิ่น เป็นอย่างมาก เพราะท่านเป็นคนใจดี ถึงลูกถึงคน หัวใจนักเลง และเป็นรัฐมนตรีคนเดียวในประวัติศาสตร์กระทรวงแรงงาน ที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด ปกติก็จะอยู่เพียงแค่ 1-2 ปี แต่ตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ท่านทำงานหนักมาก จนทำให้กระทรวงแรงงานเป็นที่เชิดหน้าชูตาของสังคม
และจากการสอบถามกลุ่มข้าราชการสำนักงานประกันสังคมระบุว่า ข้าราชการประกันสังคมทุกคนต่างยกย่องชื่นชมท่านรัฐมนตรีสุชาติที่ท่านทำงานหนักเพื่อผู้ใช้แรงงาน และเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ข้าราชการ
โดยในช่วงวิกฤติโควิดท่านร่วมหัวจมท้าย เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันมา เพราะขณะนั้นประชาชนทุกข์ร้อนกังวลใจจากวิกฤติโควิด จนต้องเปิดสนามไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง เป็นจุดตรวจคัดกรอง และฉีดวัคซีน และในที่สุดท่านก็สามารถนำพาข้าราชการให้ผ่านพ้นสถานการณ์นั้นมาได้
โดยขณะที่นายสุชาติ รับดอกไม้และคำอาลัยจากข้าราชการ ถึงน้ำตาซึม ซาบซึ้งในน้ำใจของพี่น้องแรงงานและข้าราชการที่มอบความรักให้
ทั้งนี้ นายสุชาติ ยังกล่าวถึงนโยบายที่ตนเคยทำเอาไว้และต้องการให้มีการขับเคลื่อนต่อขณะพบปะกับข้าราชการ ผู้นำสหภาพแรงงาน และชาวบ้านที่มาให้กำลังใจเพื่อทำให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อาทิ การผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ข้อ ให้แล้วเสร็จ โรงพยาบาลประกันสังคม โรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อความภาคภูมิใจของผู้ใช้แรงงาน เป็นต้น อะไรที่เป็นนโยบายที่ดี และเกิดประโยชน์กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานก็อยากให้ได้มีการได้สานต่อเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป