วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2566 : กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดย กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้นำสำนวนคดีพิเศษที่ 29/2561 กรณี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับอดีตผู้บริหาร บมจ. IEC กับพวก รวม 10 ราย ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด
โดยมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่กรรมการ ผู้จัดการหรือผู้รับผิดชอบในการดำเนินการของนิติบุคคลที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กระทำผิดหน้าที่โดยทุจริต เบียดบังทรัพย์สิน และแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของนิติบุคคลและจัดทำหรือยินยอมให้มีการจัดทำบัญชีไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงเพื่อลวงบุคคลใดๆ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ทั้งนี้ จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้มีการวางแผนให้ บมจ. IEC ทำสัญญาซื้อหุ้นของบริษัทจำกัด 2 ครั้ง ครั้งแรก ซื้อในราคาสูงเกินจริง โดยร่วมมือกันทำนิติกรรมอันเป็นเท็จ เพื่อทำให้บริษัทจำกัดดูเสมือนมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นก่อนจะเข้าซื้อ ครั้งที่สอง ซื้อหุ้นเพิ่ม ทั้งที่บริษัทจำกัดถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบทางบัญชีของ บมจ. IEC ยังพบว่าไม่มีการตั้งค่า
เผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับหนี้บางรายการ เพื่อให้งบการเงินดูดี รวมถึงยังพบว่าอดีตผู้บริหาร บมจ. IEC กับพวกได้มีการติดต่อซื้อโรงไฟฟ้าและนำไปขายต่อได้กำไร โดยใช้งบประมาณของ บมจ. IEC ในการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว เป็นเหตุให้ บมจ. IEC ได้รับความเสียหาย จึงได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสิบรายในฐานความผิดที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน