ระบาดหนัก! มิจฉาชีพส่ง SMS ติดตั้งแอปฯรับเงินดิจิทัล 1 หมื่น เตือนอย่าดาวน์โหลด
24 ส.ค.2566 – พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า ตรวจสอบพบผู้เสียหายหลายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาแจ้งว่า “ คุณได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ ” พร้อมกับแนบลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ ใช้ชื่อบัญชีไลน์ว่า Thaid online ซึ่งเป็นชื่อระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของกรมการปกครอง
ทั้งนี้เมื่อผู้เสียหายติดต่อไปยังไลน์ดังกล่าว มิจฉาชีพจะหลอกลวงสอบถามข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลหรือไม่ จากนั้นจะให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10000 ” ผ่าน Play Store เมื่อทำการติดตั้งเสร็จสิ้น จะหลอกลวงให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนต่างๆ เริ่มจากการให้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน อาชีพ และรายได้ เพื่อตรวจสอบสิทธิ์
ต่อมาจะให้ทำการตั้งค่าให้สิทธิการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือ หรือการให้สิทธิควบคุมโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายใช้งานอยู่ หลอกลวงให้กรอกรหัส PIN 6 หลัก ที่ผู้เสียหายใช้งานอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงหลอกลวงให้ทำการสแกนใบหน้า หรือหลอกลวงให้โอนเงินค่าธรรมเนียมในจำนวนเล็กน้อยเพื่อนำรหัสการทำธุรกรรมธนาคารของผู้เสียหายไปใช้แล้วเข้าควบคุมโทรศัพท์ของผู้เสียหายเพื่อโอนเงินออกจากบัญชี
ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 19 ส.ค.66 การหลอกลวงติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบฯ มีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูงเป็นลำดับที่ 9 มีจำนวนกว่า 9,460 เรื่อง หรือคิดเป็น 2.38 % ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 820 ล้านบาท
ข้อมูล หรือให้ชำระค่าประกันสังคม หรือจะโอนเงินค่าประกันโควิคให้ เป็นต้น โดยมักจะอาศัยความไม่รู้ และความโลภ ของประชาชนเป็นเครื่องมือในการหลอกลวง
โฆษก บช.สอท.กล่าวอีกว่า ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงแนวทางการป้องกัน 11 ข้อ ดังต่อไปนี้
1.ไม่กดลิงก์ที่เเนบมากับข้อความสั้น (SMS) หรือที่ส่งมาทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่แนบมาพร้อมกับข้อความในลักษณะการให้สิทธิพิเศษ ให้เงินรางวัล หรือโปรโมชันต่างๆ หรือข้อความที่ทำให้ตกใจกลัว เป็นต้น
2.ไม่กดลิงก์ หรือกดปุ่มผ่านเว็บไซต์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะอาจเป็นเว็บไซต์ปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมาหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือ
3.หากได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย และมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ขอชื่อนามสกุล และหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับของเจ้าหน้าที่ โดยให้แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปภายหลัง
4.ตรวจก่อนว่ามาจากหน่วยงานนั้นๆ จริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามผ่านหมายเลขคอลเซ็นเตอร์ หรือผ่านเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานนั้น โดยตรง รวมถึงตรวจสอบว่ามีการประกาศแจ้งเตือนการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าวหรือไม่
Reset หรือการบังคับให้อุปกรณ์นั้นรีสตาร์ต (ส่วนใหญ่เป็นการกดปุ่ม Power พร้อมปุ่มปรับเสียงค้างไว้) ในกรณีเกิดอาการค้างไม่ตอบสนอง หรือเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) หรือปิดเครื่องเพื่อตัดสัญญาณไม่ให้โทรศัพท์สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออก หรือทำการปิด Wi-fi Router
10.อัปเดตระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ให้เป็นปัจจุบัน
11.หมั่นติดตามข่าวสารของทางการอยู่เสมอ