คสช.ไม่ยุ่งเงินประมูลทีวีดิจิทัลงวดแรก 1.1 หมื่นล้านบาท ให้กสทช. ใช้แจกคูปอง เริ่มเดือน ก.ย
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคม
แห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 80/2557 ไม่กระทบ
ต่อโครงการแจกคูปองทีวีดิจิทัล ที่คาดว่าจะเริ่มแจกเดือน ก.ย. เนื่องจากจะใช้เงินงวดแรกจากการประมูล
จำนวน 11,162 ล้านบาท มาใช้ในการแจก โดยเงินดังกล่าวไม่ต้องนำส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน
ทั้งนี้ กสทช.จะต้องทำแผนการแจกคูปองให้ชัดเจนส่งคสช. พิจารณา และหากไม่เพียงพอต่อการแจกคูปอง
กสทช.จะทำขอรับจัดสรรเงินงบประมาณจากคสช.อีกครั้ง ตามความจำเป็นที่ต้องใช้เงินแจกคูปองทีวีดิจิทัล
เท่านั้น เนื่องจากการรับฟังความเห็นสาธารณะ ส่วนใหญ่เห็นว่าควรแจกที่ราคา 1,000 บาท แม้ว่าราคาที่
กำหนดไว้เดิมจะอยู่ที่ 690 บาทก็ตาม
สำหรับเงินจากการประมูลที่เหลืออีก 3.97 หมื่นล้านบาทนั้น ต้องนำส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินตามประกาศ
คสช. ฉบับที่ 80/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฏหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการ
ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เกี่ยวกับการนำเงินประมูลใน
กิจการวิทยุโทรทัศน์และโทรคมนาคม เข้าเป็นรายได้แผ่นดิน จากเดิมที่นำส่งกองทุนวิจัยและพัฒนา
กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)
นายฐากร กล่าวว่า. กสทช. จะนำส่งเงินประมูลส่วนที่เหลือทันที หลังจากที่ผู้ประกอบการนำมาจ่าย
แบ่งเป็น ปีที่ 2 จำนวน 8,124 ล้านบาท ปีที่ 3 และปีที่ 4 ปีละ 8,653 ล้านบาท และ ปีที่ 5 กับปีที่ 6
อีกปีละ 7,134 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยังมีเงินกองทุน กทปส. คงเหลืออีกประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ที่กระทรวงคลังสามารถยืม
ไปใช้ได้ตามความจำเป็น โดยที่มาของรายได้ส่วนนี้ ประกอบด้วย 1.รายได้ที่โอนมาจากคณะกรรมการ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เดิม3,000 ล้านบาท 2.เงินงบประมาณที่สำนักงานกสทช. จัดสรร
ให้ตามกฎหมายปีละไม่เกิน 50 ล้านบาท 3. เงินค่าปรับต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติ
ตามเงื่อนไขที่กสทช. กำหนด 396 ล้านบาท และ 4. ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ได้รับไลเซนส์ เพื่อนำ
ไปพัฒนาและกระจายบริการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างทั่วถึง (ยูเอสโอ) ด้านโทรคมนาคม
8,400 ล้านบาท.