(13 ส.ค. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่บริเวณซอยพหลโยธิน 54/4 เขตสายไหม ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกรณีปัญหาการจัดเก็บขยะ และปัญหาอื่น ๆ ในพื้นที่ อาทิ การจอดรถในซอย ไฟส่องสว่าง การขุดลอกท่อ คูคลอง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ว่า ปัญหาของเขตสายไหมคือเขตขยายตัวออก คนย้ายจากข้างในออกมาข้างนอก ซึ่งตอนนี้มีประชากรประมาณ 2 แสนคน ถือว่ามากเป็นอันดับต้น ๆ ของเขตในกรุงเทพฯ มีหมู่บ้านเยอะมากและมีซอยเล็กน้อยยิบย่อยมากมายทำให้เก็บขยะยาก ซึ่งเราต้องช่วยกันกับเขต ตอนนี้ส่วนกลางได้ส่งรถขยะลงมาเพิ่มให้ทางเขตแล้ว 4 คัน โดยเขตสายไหมมีอยู่เดิม 30 คัน ซึ่งข้อดีของรถขยะที่เรามีคือทุกคันมี GPS จึงทำให้ตรวจสอบได้ว่าแต่ละคันวิ่งไปที่ไหน นำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ว่าแต่ละจุดเก็บขยะเท่าไหร่
พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้เน้นย้ำและกำชับ นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตสายไหม ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ สำหรับเรื่องไฟส่องสว่าง โดยภาพรวมดีแต่มีบางจุดที่อาจจะดับ ให้ฝ่ายเทศกิจนำรถออกตรวจจุดที่ไฟดับในเวลากลางคืนและบันทึกข้อมูลไว้เพื่อทำการแก้ไขต่อไป ในเรื่องปัญหาการจอดรถอันเนื่องมาจากคอนโดบางแห่งในซอยมีที่จอดรถไม่เพียงพอ ทำให้ผู้อาศัยต้องนำรถมาจอดริมถนนภายในซอย ซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนถึงการสัญจรที่ค่อนข้างลำบาก และอาจเกิดปัญหากรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น หากมีรถฉุกเฉินต้องเข้ามารถผู้ป่วยก็เข้ามาได้ลำบาก รวมถึงรถเก็บขยะเช่นกัน โดยอาจแก้ปัญหาด้วยการทาสีสัญลักษณ์ห้ามจอดสลับกันไป เพื่อให้รถสามารถมีช่องทางและระยะหลบหลีกกันได้ เรื่องการขุดลอกคูคลอง การมีจิตอาสามาช่วยนั้นเป็นเรื่องดี แต่ต้องให้คนของหน่วยงานกทม.เป็นผู้นำในเรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนจิตอาสานั้นให้คอยช่วยเก็บรายละเอียด โดยหลังจากนี้จะลงมาตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนที่ได้สั่งงานในลำดับต่อไป