สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ผู้นำ 28 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ (อียู) ได้ร่วมกันหารือต่อแนวทางความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่าง อียู กับ สหรัฐฯ หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อ เท็ด มาลลอค นักวิชาการและนักธุรกิจ ชาวอเมริกัน เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอียู
ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่ กรุงวัลเลตตา ประเทศมอลตา เมื่อวานที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ผู้อพยพทางเรือ และการเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจา “เบร็กซิต” กับสหราชอาณาจักรแล้ว ยังได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นหวั่นวิตก จากการที่ ทรัมป์ เสนอชื่อของ มาลลอค เข้ามาเป็นทูตสหรัฐฯประจำอียู เพราะเจ้าตัวเคยออมาวิจารณ์สกุลเงินยูโร ว่า จะล่มสลาย และ อียู จะแตกไปในที่สุด
ด้าน ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า ผู้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ควรให้เกียรติประเทศที่จะเข้าไปประจำการ หรือสถาบันที่ตัวเองจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะตัวแทนของประเทศ หลัง มาลลอค กล่าวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ว่าเงินยูโร จะล่มสลายภายใน 18 เดือน ทำให้รัฐบาล และผู้นำจาก 28 ประเทศ ไม่พอใจ โดยถูกวิจารณ์โจมตีจาก รัฐบาลเยอรมนี อย่างหนัก
ขณะเดียวกัน แดร์ ชปีเกล นิตยสารชื่อดังของ เยอรมนี เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของ มาลลอค ว่า ความเปลี่ยนแปลงจะสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ในการพยายามบูรณาการสหภาพ ตลอดสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เพราะสหราชอาณาจักร ไม่ใช่ประเทศสุดท้ายที่จะถอนตัวออกจาก อียู และความสัมพันธ์ระหว่าง ยุโรป กับ สหรัฐฯ จะเปลี่ยนไปในยุคของ ทรัมป์ ซึ่งข้อความดังกล่าวสร้างความไม่พอใจอย่างหนักในที่ประชุมสภายุโรป (อีพี) ถึงขั้นมีการเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ปฏิเสธการรับรองตำแหน่งเอกอัครราชทูตของ มาลลอค เลยทีเดียว
เท็ด มาลลอค
ฟรองซัวส์ ออลลองด์