เดอะ วอชิงตัน โพสต์ สื่อชื่อดังของสหรัฐฯ รายงานว่า โมฮัมหมัด จาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ อิหร่าน เผยว่า หากรัฐบาลเตหะรานทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง ตามที่สื่อของสหรัฐฯรายงาน นั่นก็เป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพอาวุธให้มีสมรรถนะสามารถป้องกันประเทศ ไม่ได้พัฒนาขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ตามที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ซารีฟ ยังกล่าวเตือนสหรัฐฯ ว่า อย่าพยายามสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในดินแดนตะวันออกกลาง หลัง นิกกี้ เฮลี่ย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น และอิสราเอล เสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี ให้มีการจัดประชุมฉุกเฉินกรณีการทดสอบขีปนาวุธของ อิหร่าน ที่เข้าข่ายละเมิดมติของ ยูเอ็นเอสซี และอาจเป็นภัยคุกคามต่อความั่นคงในตะวันออกกลาง พร้อมทั้งวิจารณ์ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่า อิหร่าน เป็นหนึ่งในประเทศที่พลเมือง ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้เป็นเวลา 90 วัน ร่วมกับ อิรัก, ซีเรีย, ลิเบีย, เยเมน, ซูดาน และ โซมาเรีย ว่าเป็นนโยบายที่ไร้สาระสิ้นดี
ด้าน เซอร์เก รีอับคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ รัสเซีย หนึ่งในผู้ร่วมลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ร่วมกับ สหรัฐฯ, จีน, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส และเยอรมนี กล่าวว่า ยังไม่มีฝ่ายใดแสดงหลักฐานยืนยันว่า อิหร่าน ทดสอบขีปนาวุธ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเพียงสื่อสหรัฐฯเท่านั้น ที่รายงานข่าวดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมติของ ยูเอ็นเอสซี