แรงงานเมียนมาในไทยมากกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเคลื่อนไหวเป็นประวัติการณ์เรียกร้องค่าตอบแทนเพิ่ม แม้ไทยจะมีกฎหมายห้ามแรงงานข้ามชาติรวมตัวกันเจรจากับนายจ้าง
แรงงานเมียนมา 2,243 คนรวมตัวกันเคลื่อนไหวเป็นประวัติการณ์ เรียกร้องสวัสดิการและค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ พ.ศ. 2518 จากบริษัทยูนิคอร์ด จำกัด (มหาชน) ผู้นำในวงการอุตสาหกรรมแปรรูปและส่งออกทูนารายใหญ่ของไทย ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่สมุทรสาคร และ นครปฐม
ตัวแทนกลุ่มแรงงานเมียนมา 7 คน พร้อมด้วยที่ปรึกษาชาวไทย และล่ามภาษาพม่า ได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องที่โรงงานของยูนิคอร์ด และที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร โดยตัวแทนกลุ่มแรงงานชาวเมียนมาบอกว่า พวกเขาอยากได้การดูแลที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย
ข้อเรียกร้องของกลุ่มแรงงานเมียนมาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น เช่น ค่าตอบแทนต่อปีเพิ่มขึ้น, ค่าทำงานล่วงเวลากะกลางคืนและเบี้ยขยันที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการขอให้บริษัทเพิ่มค่าจับมีด ค่าร้อน จาก 20 บาทต่อวัน เพิ่มเป็น 50 บาทต่อวัน และขอให้มีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ให้แรงงานด้วย ไม่ใช่แค่ระดับหัวหน้างาน และเรียกร้องเงินโบนัส
ประเทศไทยมีกฎหมายที่ห้ามผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยหรือแรงงานข้ามชาติก่อตั้งหรือเข้าร่วมกับสหภาพแรงงานเพื่อเจรจาหรือต่อรองกับนายจ้าง ซึ่งผิดหลักกฎหมายสากล และสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยที่ผ่านมา ก็มีหลายประเทศที่นำเข้าอาหารทะเลแปรรูปจากไทย เรียกร้องให้รัฐบาลและนายจ้างในประเทศไทย เคารพสิทธิและเสรีภาพของแรงงานทุกคน ที่ควรมีสิทธิ์เจรจาเรียกร้องการดูแลและสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและเหมาะสม
อานดี ฮอลล์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงานซึ่งเคยทำงานในไทย ให้สัมภาษณ์กับ วอยซ์ทีวี ว่า เขาตื่นเต้นและภูมิใจที่แรงงานเมียนมาหลายพันคนรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็งเพื่อเรียกร้องการดูแลที่ดีขึ้นจากนายจ้าง ซึ่งความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติในไทยจะดีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพวกเขากล้าที่จะเรียกร้องสิทธิและสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง
บริษัทยูนิคอร์ด มีแรงงานกว่า 12,000 คน ในโรงงาน 3 แห่ง ตกลงที่จะเจรจากับตัวแทนแรงงานรอบแรกในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมาและกัมพูชาเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเลของไทยเดินหน้าได้