ความคืบหน้า ที่สโมสรตำรวจ เมื่อวันที่ 14 ก.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สั่งการให้พนักงานสอบสวนพิจารณาดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ ก่อนเนื่องจากความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนานั้น มีโทษสูงสุดแค่จำคุกตลอดชีวิต แต่ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต โดยชุดพนักงานสอบสวนมีข้อมูลหมดแล้วว่า จุดไหนที่ไปซื้อเลื่อยไฟฟ้า รวมถึงทุกจุดที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด เพื่อจะนำมาประกอบสำนวน
รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า ตนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของกลุ่มแก๊งที่อยู่ในพื้นที่พัทยา และพักอาศัยอยู่ที่หนองปรือ จังหวัดชลบุรี รวมถึงการตรวจสอบการขออนุญาตอยู่ต่อในรูปแบบของวีซ่า รีไทร์เมนท์ โดยให้ลงพื้นที่สกรีนเป้าหมายทั้งหมดในพื้นที่พัทยาและหนองปรือ โดยกำหนดให้ส่งมอบข้อมูลทั้งหมดภายใน 2 สัปดาห์ และจะลงพื้นที่กวาดล้างกลุ่มแก๊งพวกนี้
“เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ต้องจับตาดูกลุ่มชาวต่างชาติที่มาอยู่เมืองไทยไม่มีงานทำ มีพฤติกรรมขี่รถจยย.ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน และมีรอยสักเป็นตราสัญลักษณ์ของแก๊ง และใช้วีซ่ารีไทร์เมนท์ จะใช้มาตรการของตม.เพิกถอนวีซ่า และส่งกลับประเทศของตัวเอง” รอง ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนจะไม่ยอมให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้มาอาศัยพัทยาเป็นที่พักพิง เพราะฉะนั้นการที่ตม.จะต่อวีซ่าให้แก่กลุ่มบุคคลที่มีรอยสักเป็นกลุ่มแก๊ง ต้องพิจารณาออกวีซ่า รีไทร์เมนท์ ไม่ได้ เมื่อกลุ่มบุคคลพวกนี้เข้าประเทศมาแล้วมาก่อเหตุอาชญากรรม ด่านแรกคือตม.ต้องตรวจสอบ
และกวาดล้างกลุ่มแก๊งทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Badidose หรือ Outlaws หลังการกวาดล้างกลุ่มใหญ่ที่พัทยาได้ เชื่อว่าในหัวเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักกลุ่มแก๊งพวกนี้อยู่ ต้องเผ่นหนีไปหมด อยู่ในประเทศนี้ไม่ได้ หากจุดไหนที่เจ้าหน้าที่รัฐอ่อนแอ กลุ่มพวกนี้ก็จะไปที่นั่น เพราะฉะนั้นหน่วยตม.จะต้องเข้มแข็ง ตนกำชับและสั่งการกับ ผบก.ตม.3 ไปแล้ว