สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลดลง เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของกรมชลประทาน ที่เน้นเก็บกักน้ำในเขื่อน เตรียมความพร้อมรับมือกับเอลนีโญ ตามที่เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก(WMO) ได้ประกาศเตือนถึงปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่จะส่งผลให้ฤดูฝนของประเทศไทยปีนี้ มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าปกติ และคาดว่าจะกินระยะเวลายาวนานไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง เกษตรกรต้องใช้น้ำอย่างประหยัด งดการเพาะปลูกข้าวนาปรัง และ และหันไปปลูกพื้นน้ำน้อยแทน เพื่อป้องกันความเสี่ยง จากความเสียหายของพืชผลทางการเกษตร จากปัจจัยการขาดแคลนน้ำ และภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นในฤดูฝน
ด้าน นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 กล่าวว่า....สถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ซึ่งขณะนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้บริหารจัดการน้ำตามแผนที่กรมชลประทานกำหนดพร้อมทั้ง ดำเนินการปรับลดการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ให้เหลือเพียง 1.040 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เตรียมรับมือปรากฏการณ์เอลนีโญ
ซึ่ง ปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำ อยู่ที่ประมาณ 120 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 12.47 จากปริมาณเก็บกักสูงสุดที่ 960 ล้านลูกบาศก์ ซึ่งเขื่อนป่าสักฯ จะปรับลดการระบาย หรือระบายน้ำน้อยลงกว่านี้บ้าง เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ท้ายน้ำ และสำหรับการอุปโภคและบริโภค ซึ่งคาดการณ์ว่า...จะมีฝนตกและมีน้ำเพิ่มขึ้น ในช่วงเดือนสิงหาคม...
นายอนุสรณ์ ตันติวุฒิ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 )
กล่าวทิ้งท้ายในที่สุด
…………………………………………
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
สมชาย เกตุฉาย
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ