นายกฯ เยอรมนีโกรธจัด โดน ‘เพื่อน’ สหรัฐฯ คิดไม่ซื่อ…สั่งตะเพิดหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ
ประจำกรุงเบอร์ลิน ออกนอกประเทศ หลังจับกุม 2 ผู้ต้องหาเป็น “สปาย” ให้กับสหรัฐฯ ได้ ส่งผล
ให้ความสัมพันธ์ ‘เย็นชา’ หนักสุดในรอบเกือบ 10 ปี
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลเยอรมนีกับสหรัฐฯ หมางเมินกันหนักในรอบ
เกือบ 10 ปี เมื่อรัฐบาลเยอรมนี ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล มีคำสั่งให้หัวหน้า
สำนักงานข่าวกรองของสหรัฐฯ (ซีไอเอ) ประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเบอร์ลิน เดินทางออกจาก
ประเทศเยอรมนี เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (10 ก.ค.) หลังจากทางการเยอรมนีจับได้ว่า มีเจ้าหน้าที่
สองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็น สปาย หรือสายลับให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ และขณะนี้คณะอัยการ
ของเยอรมนีกำลังดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่
‘การล้วงข้อมูลของเพื่อนที่เป็นมิตรกันนั้น..เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน เรามีปัญหามากมายหลายเรื่อง
อยู่แล้ว จึงขอเน้นหนักไปที่การแก้ปัญหาสำคัญเหล่านั้นดีกว่า ’นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรี
หญิงเยอรมนี กล่าวด้วยความฉุนเฉียว ซึ่งนับเป็นการแสดงความไม่พอใจมากที่สุดต่อสาธารณะ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งทำให้ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ เย็นชาที่สุด นับตั้งแต่
รัฐบาลนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล คัดค้านสหรัฐฯ ทำสงครามถล่มอิรัก เมื่อปี 2546
ด้านโฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรีแมร์เคิล กล่าวกับสื่อมวลชนกรณีรัฐบาลเยอรมนีขอร้องให้
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองในกรุงเบอร์ลินออกจากประเทศเยอรมนีว่า เพื่อเป็นการตอบโต้ ต่อคำถาม
ที่มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องสหรัฐฯ ดำเนินการล้วงข้อมูลของรัฐบาลและประชาชนในเยอรมนี
ทั้งนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 ก.ค.) ตำรวจเยอรมนีได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในเขตกรุงเบอร์ลิน
รวมถึงสำนักงานของชายคนหนึ่ง ที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเขาเป็นลูกจ้างในกองทัพเยอรมนี
และถูกกล่าวหาว่าแอบล้วงความลับให้สหรัฐฯ ซึ่งนับเป็นผู้ต้องหารายที่สองที่ตกเป็นผู้ต้องหา
เป็นสปายให้กับสหรัฐฯ