ประธานาธิบดีโอบามา ของสหรัฐฯ เสนอเป็นคนกลางเจรจายุติศึก ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธ
ในปาเลสไตน์ หลังทั้งสองฝ่ายเปิดฉากปะทะกันเดือด กองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมาย
ในกาซา ชาวปาเลสไตน์สังเวยชีวิตนับร้อย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ขันอาสา
พร้อมเป็นคนกลางเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซา ดินแดนปาเลสไตน์
ระหว่างผู้นำสหรัฐฯ โทรศัพท์ไปหารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เกี่ยวกับ
สถานการณ์รุนแรงในฉนวนกาซา หลังจากอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ กลับมาเปิดศึก
ต่อสู้กันอย่างดุเดือด จนทำให้มีพลเรือนปาเลสไตน์เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์เปิดเผยว่า มีชาวปาเลสไตน์ในกาซา เสียชีวิตแล้วกว่า 90 ราย และบาดเจ็บ
กว่า 600 ราย นับตั้งแต่กองทัพอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด ถล่มกาซา
อย่างดุเดือด ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (8 ก.ค.) โดยอิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายในกาซา
ถึงกว่า 100 แห่ง เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ขณะที่ด้านกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ยังคงยิงจรวดโจมตี
ไปในดินแดนอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง และมีจรวดอย่างน้อย 1 ลูก ไปตกทางตอนใต้ของประเทศ
เลบานอนด้วย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต
ด้านประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย
ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์รุนแรงในกาซา พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอล
และกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ควรหยุดยิงกันทันที เช่นเดียวกับ นายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่
สหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายควรอดกลั้น
ทั้งนี้ สถานการณ์รุนแรงในฉนวนกาซาเกิดขึ้น หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ เด็กหนุ่มอิสราเอล 3 คน
ถูกลักพาตัวและโดนฆ่าทิ้งในฉนวนกาซา โดยรัฐบาลอิสราเอลประณามเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธ
ฮามาส ในปาเลสไตน์ แต่แล้วเพียงไม่กี่วันต่อมา ก็เกิดเหตุเด็กหนุ่มปาเลสไตน์ถูกลักพาตัว
และโดนเผาทั้งเป็นจนเสียชีวิต