สร้างกระแส! เพี้ยน! บ้า! สารพัดคำวิจารณ์ที่ตั้งแต่สาวเซ็กซี่ “เอมมี่ อมลวรรณ” ได้ออกมาพูดถึงเรื่องความเชื่อและความศรัทธาของตนเกี่ยวกับการสักเสือสมิงเหยียบโลกและได้ถูกเลือกจากเบื้องบนที่กำหนดให้เธอเข้าสู่เส้นทางสายนี้เพื่อช่วยเหลือคนจากความทุกข์ในการทำแท้ง
แต่ด้วยภาพลักษณ์เซ็กซี่ที่เหมือนเป็นเงาตามตัวนั้น จึงทำให้ดูขัดแย้งสุดท้ายเธอจึงหนีไม่พ้นจากคำครหาเธอหากินกับความเชื่อของคนหรือไม่? จึงขอพาทุกคนไปพิสูจน์ความจริงในการสัมภาษณ์เธอครั้งนี้แบบจัดเต็มว่าเป็น “เรื่องจริง” หรือว่าเธอ “แค่มโน”
ปัญหาชีวิตทำให้เชื่อเรื่องไสยศาสตร์
“คนมักชอบพูดว่าเอมมี่หันมาเอาดีทางด้านนี้ซึ่งจริงๆ แล้วเอมมี่อยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้วเพียงแต่ไม่มีใครถามเอมมี่เรื่องนี้พอเวลาเจอสิ่งแรกก็ถามแต่เรื่องนม เรื่องที่สองก็ถามเรื่องผัว เอมมี่อยู่กับเรื่องพวกนี้และชอบกับตรงนี้ตั้งนานแล้วและก็ยิ่งมาศรัทธามากขึ้นเพราะชีวิตเกิดจุดหักเหคือเป็นเท้าแชร์ และลูกมือจ่ายช้าเราก็ต้องจ่ายสำรองก่อนแล้วหมุนเงินไม่ทัน คือหมดทางแล้วรถก็จำนำ ทองก็จำนำเพื่อที่จะไม่ให้คนมาด่า”
จากนั้นเธอจึงตัดสินใจเล่าให้เพื่อนที่เคยเป็นร่างทรงและสนิทว่าเธอกำลังอยากตาย นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเริ่มเชื่อและศรัทธากับสิ่งที่มองไม่เห็นและพิสูจน์ไม่ได้มากขึ้นสุดท้ายจึงถวายตัวเป็นลูกศิษย์ฤษีตนหนึ่ง
“เอมมี่เล่าปัญหาให้เพื่อนฟังเค้าก็ไปเล่าให้ฤษีที่เขานับถือเป็นอาจารย์ท่านก็บอกว่าเอมมี่มีของดีแต่ทำไมไม่ขอ เอมมี่ก็ยังคิดในใจมีอะไรชีวิตไม่เหลืออะไรแล้วตอนนี้ เขาก็บอกว่าให้ท้าปู่เป็นปู่นารายณ์ที่เพิ่งได้มา แต่เอมมี่ต้องสัญญาว่าถ้าท้าแล้วได้จะต้องสักเราก็มีไม่มีทางเลือกแล้ว เอมมี่ก็เลยลองขอให้หนูผ่านวิกฤตนี้ไปได้ ถ้าผ่านไปได้จะยอมสัก ทั้งที่ในชีวิตเอมมี่ไม่เคยจะคิดสักเพราะพ่อเคยขอไว้ว่าจะทำอะไรไม่ว่าแต่ขออย่าสักไม่ชอบ”
“แต่สุดท้ายอยู่ดีๆ ก็ได้เงินมาห้าแสน คือพ่อของลูกเอมมี่ที่ก่อนหน้านี้เอมมี่เคยไปของความช่วยเหลือแล้วเค้าไม่เชื่อว่าคนอย่างเราจะไม่มีเงินคนอย่างเราจะลำบาก ซึ่งเค้าก็ถามว่าหนูร้องไห้ทำไมเดือดร้อนมากใช่มั้ยงั้นก็เข้ามาเอาเงิน พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ก็ต้องทำให้เอมมี่ยอมรับว่าต้องสักตามที่สัญญาไว้”
นอกเหนือจากความศรัทธาที่สาวเอมมี่เล่าว่าได้รับการช่วยเหลือจากปัญหาชีวิตแบบไม่น่าเชื่อแล้วนั้นเธอเล่าให้ฟังอีกว่า
“มีวันหนึ่งเอมมี่ไปเล่นคอนเสิร์ตที่มาเลเซียและกำลังกลับมาเมืองไทยมีผู้หญิงคนนึง เค้าก็เข้ามาขอถ่ายรูปแล้วบอกว่าหนูอยู่ใกล้พี่แล้วรู้สึกขนลุก ก็เลยถามกลับไปว่าคุณไปทำอะไรมาที่มาเลเค้าก็บอกว่าไปดูดวงมาดูศาสตร์ไผ่นาคราชซึ่งเราก็เป็นคนที่บูชาพญานาคอยู่แล้วแต่ไม่เคยได้ยินศาสตร์ไผ่แบบนี้ แล้วเค้าก็บอกว่าคุณเอมมี่อีกไม่นานคุณจะได้เป็นเหมือนเค้า คือเค้าเคยเป็นร่างทรงมาก่อนแล้วใช้ร่างเยอะๆ มันก็เลยทรุดแล้วก็หันมาเรียนเรื่องไผ่นาคราช ก็เลยอยากรู้ว่าเรื่องจริงหรอ”
“แล้วพอดีมีเพื่อนดาราเอมมี่ที่มาเลคนนึงโดนแย่งสามี เราเคยคุยกันแล้วเขาบอกว่ามีวิธีไหนมั้ยเขายอมทำทุกอย่างที่จะเอาผัวคนนี้กลับคืนมา เราก็เลยอยากรู้ว่ามันจริงมั้ยเรื่องแบบนี้ เลยถามน้องคนนี้แหละว่ามีใครพอที่จะให้สามีของเพื่อนกลับมาได้มั้ย เค้าก็บอกว่ามีและเค้าก็พาเอมมี่ไปหาฤษีที่กาฬสินธุ์ แล้วก็ทำให้ไม่เกินสามวันสามีเพื่อนกลับมาเราก็เริ่มคิดว่าหรือว่าสิ่งพวกนี้จะมีจริง”
เชื่อ ศรัทธา สู่การรับขันธ์ธรรม
“หลังเอมมี่ได้รับขันธ์ธรรมแล้วมันก็เริ่มได้เห็นได้รู้อะไรมากขึ้น ก็ยังถามอาจารย์ว่าทำไมถึงแบบนี้ทำไมน่ากลัวจัง สรุปคือวันที่รับขันธ์ธรรมอาจารย์ได้เปิดตาที่สามให้ ล่าสุดมีน้องคนนึงส่งรูปมาถามว่าทำไมชีวิตหนูทำอะไรไม่ขึ้นเลยเราก็เปิดรูปเค้าดูเอมมี่ก็เห็นว่าเค้าทำแท้งมาสามสี่ครั้งก็ทักเค้าไปซึ่งเค้าก็บอกว่าตรงเค้าเคยทำจริง และก็มีน้องอีกคนมาหาที่บ้านตอนที่สองเค้าบอกว่าเค้าร้อนใจมากเหมือนแฟนเค้ามีชู้เราก็จับมือเค้า”
“แล้วก็บอกไปตามที่เห็นว่าแฟนมีชู้และชู้ก็เป็นคนใกล้ตัว พอผ่านไปสองวันน้องเค้าก็ถ่ายรูปส่งมาให้ดูว่าแฟนเค้ามีชู้กับคนใกล้ตัวจริงๆ สิ่งพวกนี้เอมมี่ก็ไม่ได้จะบอกว่าเอมมี่เก่งกล้าอะไรหรือจะเรียกว่าสิ่งที่ตัวเองมีว่าอะไร เพราะเองจริงๆ เอมมี่เพิ่งจะรับขันธ์ได้ไม่นานเองทุกอย่างมันมาเร็วมากเอาเป็นว่าเอมมี่จะไม่ขอพูดเองว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ฉันเก่งฉันดูดวงได้ ให้คนที่เค้าเข้ามาหาเอมมี่ให้เอมมี่ได้ช่วยเหลือให้เค้าได้ออกมาพูดเองดีกว่า”
กับภาพลักษณ์ที่ดูเป็นสาวเซ็กซี่แต่เมื่อเอมมี่มาเอาดีด้านสิ่งลี้ลับที่พิสูจน์ไม่ได้ สิ่งที่ตามมานั้นเธอบอกว่า คงไม่พ้นโดนด่าและโดนวิจารณ์แน่นอน
“สำหรับเอมมี่กระแสที่เข้ามาก็คงไม่มีดีหรอกค่ะ เพราะส่วนมากเวลาทำอะไรคนก็มักจะด่ากันแต่เราก็ไม่ได้สนใจก็แล้วแต่ ชอบค่ะเวลาโดนด่าเพราะเอมมี่ยิ่งด่าก็ยิ่งดัง มีงานเยอะขึ้นไม่เป็นไรเอมมี่เฉยๆ มาก สำหรับกระแสที่ดีๆ ก็ขอบคุณที่ทุกคนเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเราว่าเราจะช่วยเหลือเค้าได้ค่ะ หลักๆ ตอนนี้ที่คนเดือนร้อนชีวิตติดขัดกับเรื่องงานเรื่องเงิน ความรักและก็เรื่องทำแท้งมาก่อน
เปิดบ้านไม่ใช่เปิดสำนักหรือว่าตำหนัก เพราะเวลาลูกศิษย์มาที่บ้านอยากกินอะไร อยากดูอะไร ทุกอย่างเต็มที่เลย ไม่ใช่มานั่งใส่ชุดขาวถือลูกประคำอะไร ก็อยากจะบอกว่าเอมมี่ไม่ได้เปลี่ยนแนวหรือหันมาทางนี้เอมมี่เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่พอเป็นที่รู้มากขึ้นและด้วยภาพลักษณ์ที่มันอาจจะดูขัดกันเอมมี่อยากจะบอกทุกคนว่าอย่ามองคนแค่ภายนอก มองคนในแง่ดีบ้างและก็ที่มองคนนั้นคนนี้งมงาย คนนี้บ้าให้เปลี่ยนเป็นศรัทธาพวกคุณก็จะดีขึ้นแน่นอน”