“หนุ่มเมืองจันท์” สุดทนแฉพฤติกรรม “อดีตนายกเทศมนตรี” 2 สมัย แถมยังเป็น “ผู้สมัคร ส.ส.” พรรคการเมืองใหญ่ระดับประเทศ ลักลอบใช้ไฟฟ้าของหลวงมานานแรมปี ระบุสุดแสบลอบต่อตรงเข้าสู่ลานจอดรถธุรกิจครอบครัว ย้ำเคยเดินเรื่องร้องเรียน “กฟภ.จันทบุรี” แต่ไม่มีความคืบหน้า อัดผู้กระทำผิดพยายามทำลายหลักฐานหวังให้พ้นผิด
นายคเชนห์ ทาหุ่น ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี อายุ 33 ปี ออกมาแฉพฤติกรรมสุดแสบของ “อดีตนายกเทศมนตรี” 2 สมัย และยังเป็น “ผู้สมัคร ส.ส.” พรรคการเมืองใหญ่ระดับประเทศ ที่เพิ่งสอบตกไปเมื่อการเลือกตั้งครั้งใหญ่วันที่ 14 พ.ค.2566 ว่า สืบเนื่องจาก “ผู้สมัครส.ส.” คนดังเมืองจันทบุรีรายนี้ ได้ลักลอบใช้ไฟฟ้าของหลวงด้วยการต่อตรงไม่ผ่านมิเตอร์จากเสาไฟหน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณถนนรักศักดิ์ชมูล ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี เพื่อนำไฟฟ้ามาส่องสว่างบริเวณลานจอดรถของธุรกิจครอบครัวตัวเองเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ตนเคยนำไปร้องเรียนต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรีแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ทั้งที่มีหลักฐานต่างๆชัดเจน จึงต้องการออกมาร้องเรียนให้สังคมรับรู้ รวมไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบอยากให้ออกมาจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาด เพราะถือว่า เป็นการเอารัดเอาเปรียบสังคมอย่างยิ่ง
นายคเชนห์ฯ กล่าวว่า ส่วนตัวนึกไม่ถึงเลยว่า คนระดับผู้สมัครส.ส. ที่ทุกคนนับหน้าถือตา แถมยังเคยเป็น “อดีตนายกเทศมนตรี” มาแล้วถึง 2 สมัยจะมีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา-แพ่ง ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 1 แสนบาท สำหรับกรณีของนักการเมืองคนดังกล่าวเข้าข่ายความผิดทั้งหมด และเชื่อว่า น่าจะลักลอบใช้ไฟฟ้าลักษณะนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง โดยเฉพาะทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี ในฐานะผู้เสียหายกับนิ่งเฉย และปล่อยให้เรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน ล่าสุดผู้กระทำผิดมีความพยายามทำลายหลักฐานต่างๆทั้งหมด แต่ตนสามารถเก็บหลักฐานมาได้ก่อนหน้านี้ ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะสิ่งที่กระทำนั้นเป็นตัวอย่างไม่ดีกับสังคม ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนทุกคนที่ใช้ไฟฟ้าหลวงต้องเสียเงินค่าบริการทั้งนั้น แต่ทำไมถึงลักลอบทำแบบนี้ได้ และไม่มีความผิดอะไรเลย
“ก่อนหน้านี้ผมได้เอาหลักฐานต่างๆ ไปแจ้งความเอาผิดกับทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดจันทบุรี และสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีมาแล้ว แต่ตำรวจที่รับเรื่องถามว่า เราเป็นผู้เสียหายเองหรือไม่ กฟภ.จันทบุรีเป็นผู้เสียหายยังไม่มาแจ้งความเลย จะมายุ่งวุ่นวายทำไม นักการเมืองคนนี้ค่อนข้างมีบารมีในท้องถิ่น อาจทำให้ทุกคนเกรงกลัวไม่กล้าเอาผิด แต่ผมไม่ได้รู้สึกเกรงกลัว หรือ กังวลใจอะไร เนื่องจากมีความเชื่อว่า สังคมจะดีขึ้นได้ทุกคนต้องช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตา หลายปีที่เขาใช้ไฟฟ้าหลวงไปโดยไม่เสียเงินนั้นมันคืออะไร และถ้ามีชาวบ้านคนอื่นๆแอบทำแบบนี้บ้าง การไฟฟ้าฯจะดำเนินคดีความเอาผิดหรือไม่” นายคเชนห์ฯ กล่าว
นายคเชนห์ฯ กล่าวย้ำอีกว่า ส่วนตัวอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงมาดูแลและจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย เพราะผู้กระทำผิดเป็นถึงนักการเมืองดังท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง แต่ทำไมมีพฤติกรรมเอาเปรียบสังคมแบบนี้ จึงสมควรมีบทลงโทษตามกฏหมายหรือไม่ ส่วนตัวเป็นเพียงประชาชนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องการเรียกร้องความถูกต้องให้กับสังคมเท่านั้น และขอยืนยันว่า หากตนไม่มีหลักฐานคงไม่กล้าออกมาเรียกร้องเช่นนี้แน่ ที่สำคัญหากนักการเมืองคนนั้นไม่ได้กระทำผิดตามที่ตนเองกล่าว จะให้ลูกน้องมาทำลายหลักฐานไปทำไม ซึ่งเรื่องนี้มันดูไม่ชอบมาพากลยิ่งนัก
“การลักลอบใช้ไฟฟ้าหลวงมีความผิดตามกฏหมายจะโทษหนักหรือเบาก็ว่ากันไปตามขบวนการสอบสวน ก่อนหน้าผมไปร้องเรียนและให้หลักฐานต่างๆมาแล้ว แต่ทุกอย่างเงียบไม่มีความคืบหน้าอะไร หนำซ้ำเขายังให้คนมาทำลายหลักฐานด้วย แต่ผมเก็บหลักฐานเอาไว้หมดแล้ว หากหน่วยงานใดต้องการข้อมูลก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะคนทำผิดสมควรได้รับบทลงโทษ อย่างไรก็ตามถ้าผู้ถูกกล่าวหาอยากชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ตนเองก็พร้อมและยินดีรับฟัง ทุกอย่างว่ากันไปตามหลักฐานที่เกิดขึ้นว่า มันจริงหรือไม่” นายคเชนห์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน