วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2566 เวลา 13.30 น.พลอากาศเอกสมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 และรองประธานคณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ และคณะ ตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานโครงการกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ของเรือนจำจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายกฤษณะ ทิพย์จันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ คนต้นแบบโครงการกำลังใจฯ เข้าร่วมรายงานผลการดำเนินงาน
นายกฤษณะ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดภูเก็ตแห่งใหม่ ได้เปิดทำการเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ตั้งอยู่เลขที่ 143 หมู่ที่ 4 บ้านบางโจ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่ทั้งหมด 108 ไร่ 22 ตารางวา มีพื้นที่ภายในกำแพงทั้งหมด 42 ไร่ 2 งาน 78 ตารางวา แบ่งพื้นที่ทั้งหมด 9 แดน มีเรือนนอนชาย 8 หลัง เรือนนอนหญิง 1 หลังโรงงานฝึกวิชาชีพ 4 หลัง อาคารเรียน 1หลัง และอาคารที่ทำการ 1 หลังสามารถควบคุมผู้ต้องขังในอัตราความจุ 1.6 ตารางเมตร ต่อ 1 คน ได้จำนวน 3,459 คน
การประชุมในวันนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งของโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่คณะกรรมการกองทุนกำลังใจฯ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรมร่วมดำเนินการ โดยโครงการกำลังใจฯ เป็นโครงการที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงริเริ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 16 ปีเศษ และเปิดเรือนจำตามโครงการกำลังใจฯ ไปแล้ว 22 แห่ง ได้ช่วยเหลือกลุ่มผู้ต้องจังในเรือนจำเป็นส่วนใหญ่ โดยเป้าหมายหลักของการช่วยเหลือของพระองค์ท่านคือ การให้ความช่วยเหลือทั้งด้านจิตใจ ร่างกาย การส่งเสริมความรู้ ทักษะต่าง ๆ เพื่อให้ผู้กระทำผิดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก เรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นหนึ่งในเรือนจำตามโครงการกำลังใจฯ ที่ได้ดำเนินงานตามโครงการกำลังใจฯ มาโดยตลอด พบว่า สิ่งสำคัญประการหนึ่งของการที่จะทำให้ผู้กระทำผิดไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีกคือ การมีอาชีพ หรือการมีงานทำที่มั่นคง
ในโอกาสนี้ พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 รองประธานคณะกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พร้อมคณะได้เปิดอาคารกำลังใจ ภายใต้หลักคิด “บูกิตโฮม” พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมการฝึกวิชาชีพของผู้ต้องขังภายในเรือนจำได้แก่ การสาธิตฝึกอาชีพการทำขนม การเพ้น การเสริมสวย การนวด การจักสาน การจัดทำเครื่องหมายข้าราชการ และการปักผ้า และพบปะผู้ต้องขัง เพื่อรับทราบความต้องการของผู้ต้องขัง พร้อมทั้งให้กำลังใจและให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตต่อไป
สำหรับอาคารกำลังใจ ได้จัดพื้นที่ ประกอบด้วย ชั้นที่ 1 จัดพื้นที่สำหรับการฝึกวิชาชีพการปรุงอาหาร เบเกอรี่ห้องสมุดย่อยประจำแดน ห้องแสดงผลิตภัณฑ์โครงการกำลังใจ ห้องแม่และเด็ก สถานพยาบาล ชั้นที่ 2 จัดพื้นที่สำหรับฝึกวิชาชีพต่างๆ เช่น การปักผ้าปาเต๊ะด้วย ลูกปัดภายใต้โครงการกำลังใจ และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผลิตผู้ประกอบผลิตภัณฑ์ OTOP กรมพัฒนาชุมชนกระทรวงมหาดไทย วิชาชีพการนวดแผนไทย ศาสตร์พยากรณ์ (ไพ่ยิปซี) ตัดเย็บ และปักผลิตภัณฑ์เของที่ระลึก การฝึกอบรมศิลปะการเข้าใจตนเอง (วาดภาพ) และวิชาชีพช่างจักสานพลาสติผสมผสาน วิชาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีวิชาชีพการทำผ้ามัดย้อม วิชาชีพช่างเสริมสวย และชั้นที่ 3 จัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมโครงการพัชรธรรมภายใต้โครงการกำลังใจฯ การฝึกอบรมในระบบออนไลน์ การจัดกิจกรรมวันสำคัญของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตรีย์ ร่วมถึงการประชุมในโอกาสต่างๆ ให้กับผู้ต้องขังหญิง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน