วันที่ 23 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า เมื่อเวลา 08.20 น.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบฯ ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า วันเดียวกันนี้ ที่ทำเนียบฯ ได้มีการปรับภูมิทัศน์ หรือฮวงจุ้ย เพิ่มเติม โดยมีการนำอ่างบัวสีขนาดใหญ่ จำนวน 10 อ่าง มาประดับตกแต่งบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกบัญชาการ ทางขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย เป็นที่แปลกตา
ทั้งนี้ การนำอ่างบัวมาประดับตกแต่งครั้งนี้ ได้เริ่มดำเนินการในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ ที่ผ่านมา โดยเป็นแนวคิดของ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการปรับภูมิทัศน์ใหม่บริเวณโดยรอบของทำเนียบฯ โดยประสานให้ทางสวนนงนุช เข้ามาดำเนินการ เนื่องจากเห็นว่าเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์และได้รับรางวัลการตกแต่งสวนมาหลายตำแหน่ง โดยเฉพาะแชมป์จัดสวนโลก
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการปรับภูมิทัศน์ที่บริเวณศาลพระภูมิเจ้าที่ ทั้งการเปลี่ยนหญ้าและต้นไม้ และครั้งนี้ได้มอบหมายให้ทางสวนนงนุช มาปรับภูมิทัศน์อีกครั้งว่าควรมีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งทางสวนนงนุช ได้แนะนำว่าควรจะมีอ่างบัวมาตกแต่ง พล.อ.วิลาศ จึงให้เจ้าหน้าที่นำอ่างบัวขนาดใหญ่พร้อมบัวสีต่างๆ ทั้งสีม่วง น้ำเงิน ชมพู และขาว มาประดับตกแต่ง ทั้งบริเวณศาลพระภูมิ ทางชึ้นตึกไทยคู่ฟ้า และสนามหญ้าหน้าตึกบัญชาการ โดยจะเน้นในจุดที่นายกฯ ใช้เส้นทางผ่าน เพื่อให้นายกฯ ดูว่าเหมาะสมแค่ไหนอย่างไร รวมทั้งจะรับฟังจากเสียงส่วนใหญ่ด้วย ซึ่งหากเหมาะสมก็จะดำเนินการบริเวณอื่นๆ ในทำเนียบฯ ต่อไป
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบฯ เปิดเผยว่า การนำอ่างบัวและบัวสีต่างมาประดับตกแต่งบริเวณทำเนียบฯ ครั้งนี้ นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังเป็นการเสริมสิริมงคล เสริมดวงชะตาให้กับรัฐบาล และนายกฯ ด้วย ซึ่งการวางอ่างบัวทางทิศตะวันออกนั้น ก็เพื่อเสริมยศตำแหน่ง
สำหรับ “ดอกบัว” เป็นดอกไม้ที่คนไทยเราคุ้นเคยใช้ในการบูชาพระ ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ใช้ในพิธีมงคล และคนไทยนิยมปลูกไว้ภายในบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล คนโบราณมีความเชื่อว่า ครอบครัวใดที่ปลูกดอกบัวเอาไว้ประจำบ้าน ก็จะช่วยให้คนครอบครัวนั้น มีจิตใจที่บริสุทธิ์ สะอาด และเบิกบานแจ่มใส เช่นเดียวกับดอกบัว และยังเชื่ออีกว่า สายใยของบัวที่ยืดยาวนั้น คือสายสัมพันธ์ของครอบครัว จะทำให้ทุกคนมีความห่วงใยรักใคร่ และผูกพันต่อกันอย่างแนบแน่น ครอบครัวนั้น ก็จะมีแต่ความสุข เพราะความรักใคร่ปรองดองของคนในครอบครัวทุกคน อีกทั้งดอกบัวแสดงให้เห็นถึงปรัชญาการดำเนินชีวิต แม้จะเกิดในโคลนตม แต่เมื่อโผล่พ้นน้ำขึ้นมารับแสงสว่างแล้ว กลีบดอกกลับสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดแปดเปื้อน เสมือนคนที่เกิดมาแล้ว หากเข้าถึงหลักธรรมก็สามารถเป็นผู้หลุดพ้นจากกิเลส
และความทุกข์ทั้งปวงได้ทั้งนี้ ดอกบัวในตำราพิชัยสงคราม การออกศึกสงคราม แม่ทัพผู้บัญชาการรบ จะพิจารณาเลือกการจัดทัพตามลักษณะพยุหะ (กระบวนทัพ) ที่มีอยู่ในตำราพิชัยสงคราม ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขณะยกทัพ หรือการตั้งค่าย เพื่อความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ทุกขณะ ซึ่งการจัดทัพรูปทรงดอกบัวที่ชื่อ ว่า “ปทุมพยุหะ” มีอยู่ในตำราด้วย กล่าวคือ เป็นการจัดผังเป็นรูปดอกบัวตูม กำหนดการวางทัพโดยมีกองร้อยอยู่ส่วนยอดลดหลั่นลงมาเป็น พลทวน กองม้า กองช้าง กองเขน กองไล่ ส่วนทัพใหญ่และทัพรองตั้งมั่นอยู่ตรงส่วนฐาน การจัดทัพแบบปทุมพยุหะ นี้เหมาะกับภูมิประเทศที่เป็นที่ราบกลางทุ่งใช้ได้ทั้งการตั้งค่ายและยาตราทัพ
นอกจากนี้ ในดินแดนของอียิปต์โบราณนั้น ดอกบัวเป็นตัวแทนของสามความหมาย คือ การเกิดใหม่ ความตาย และการผนึกรวมกันของอียิปต์เหนือและใต้ ในส่วนของการเกิดใหม่นั้น ชาวอียิปต์โบราณ กล่าวว่า ลักษณะของดอกบัวที่บานในตอนเช้า และเริ่มหุบในตอนบ่าย ก่อนจะค่อยๆ มุดลงใต้ผิวน้ำไปทีละน้อย และจะกลับมาเบ่งบานอีกครั้งในเช้าวันถัดไป เปรียบเหมือนกับการเกิดใหม่ และเหมือนกับการที่ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิต ลาลับฟ้าในตอนเย็นย่ำ และโผล่มาทอแสงใหม่ยามรุ่งอรุณนั่นเอง ส่วนความหมายของดอกบัวในศาสนาฮินดู คือดอกไม้ที่สื่อถึงความงาม ความงอกเงย จิตวิญญาณ และความเป็นนิรันดร์
สำหรับความหมายของดอกบัวสีน้ำเงิน แทนชัยชนะที่จิตและปัญญามีเหนือกิเลส ดอกบัวสีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ จิตใจที่สงบ ผ่องแผ้วสดใส ดอกบัวสีม่วง สื่อถึงความลึกลับ ดอกบัวสีชมพู จัดเป็นบัวที่ประเสริฐสุด และนับเป็นดอกบัวซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ดอกบัวสีแดง มีความหมายเกี่ยวเนื่องกับใจ สื่อความหมายถึงใจที่มีความรักและความเห็นแก่เห็นใจต่อผู้อื่น