วันที่ 3 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 11.00 น.
ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในเรื่องการปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้นำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ โดยเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้รวม 12 คน ซึ่งกระทำความผิดหลอกลวงผู้อื่นทางอินเตอร์เน็ตได้ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้สั่งการให้ บก.สส.ภ.5 ทำการสืบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ภ.5 ต่อมา บก.สส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มคนมีพฤติกรรมรับสมัครพนักงานทำงานในลักษณะหลอกลวงเอาทรัพย์สินของผู้อื่น โดยใช้อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงรายเป็นสถานที่ทำงาน
ต่อมาวันที่ 3 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงรายเพื่อเข้าตรวจค้นที่อาคารหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ คนไทย จำนวน 8 คน ทำหน้าที่เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์และมีหน้าที่ทำเฟซบุ๊กปลอมแชทกับเหยื่อ คนไทย จำนวน 1 คน เป็นผู้จัดการ/ล่าม และ คนจีน จำนวน 1 คน เป็นนายจ้างคอยสั่งการและตรวจสอบไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง จึงได้ทำการตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และจับกุมผู้กระทำความผิดนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีรูปแบบในการกระทำความผิด คือ คนจีนจะให้พนักงานคนไทย สมัครเฟซบุ๊กปลอม ให้มีโปรไฟล์ดี หน้าตาดี และทำกลุ่มในโปรแกรมเฟซบุ๊กชื่อ ทำบุญออนไลน์ และเพจทัวร์บุญ พนักงานคนไทยจะใช้โปรไฟล์ปลอมเข้าไปคุย ไปกดไลด์ในกลุ่มดังกล่าว เพื่อเป็นการล่อเหยื่อคือบุคคลทั่วไปที่เข้ามาเกิดความเชื่อถือ และพูดคุยกับเหยื่อในแนวทางชู้สาวจนสนิทใจกันแล้ว จะหลอกเหยื่อที่เข้ามาคุย ให้โอนเงินทำบุญตามสถานที่ต่างๆ และให้ดาวโหลดแอพพลิเคชั่น APP.SHAOXIANG.CFD ซึ่งมีการเอาภาพสถานที่ศักดิ์สิทธิต่างๆในจังหวัดเชียงรายเอามาใส่ในแอพพลิเคชั่น เพื่อหลอกให้คนทำบุญออนไลน์ด้วย และจากนั้น จะหลอกคุยกับเหยื่อเรื่อยๆ เพื่อหลอกให้โอนเงินเข้าแอพพลิเคชั่น โดยผ่านบัญชีธนาคาร(บัญชีม้า) ซึ่งจะมีคนจีนคอยใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมดูแลหลังบ้านของแอพพลิเคชั่นดังกล่าว
สำหรับความผิดของผู้ต้องหากลุ่มนี้ เป็นความผิดฐาน ซ่องโจร,ฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนคนจีนที่เป็นนายจ้างไม่มีหลักฐานการเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากพบว่าได้เข้าประเทศมาโดยผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมและนำส่ง ตม.เพื่อผลักดันตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการขยายผลการจับกุมสู่ผู้รับจ้างเปิดบัญชีม้า ซิมโทรศัพท์ม้า ผู้ให้การช่วยเหลือ ผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด และผู้สั่งการต่อไป