ผู้ว่า ธปท. มองนโยบาย ทรัมป์ สร้างความผันผวนตลาดเงิน ตลาดทุนทั่วโลกรุนแรงแนะจับตาใกล้ชิด คง เป้าจีดีพีไทยโตะ 3.2%
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังกล่าว ปาฐกถาเรื่อง เศรษฐกิจการเงินไทยท่ามกลางความท้าทายในยุค 4.0 ในงานสัมมนาเศรษฐกิจการเงินไทยท่ามกลางความท้าทายในยุค 4.0 ในโอกาสเข้าสู่ปีที่ 20 การเปิดศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง โดยระบุว่า หลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก คือการที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ และจากการดำเนินโยบายด้านเศรษฐกิจของทีมผู้บริหารชุดใหม่หลายเรื่อง จะสร้างความผันผวนให้กับตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกอย่างรุนแรงมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรตลาดสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนความกังวลนโยบายของ นายทรัมป์ ที่จะมีการกู้ยืมจากตลาดเงินเนื่องจากภาระหนี้งบประมาณในการดำเนินนโยบายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งเงินดอลลาร์จากนี้จะผันผวน ทั้งแข็งค่าและอ่อนค่ารวดเร็ว เพราะนักลงทุนในตลาดจะรอการแถลงนโยบายที่ชัดเจน
ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ มีการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นประเทศไทยจะได้อานิสงส์ในเชิงบวก แต่ในทางกลับกันเรื่องนโยบายกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ นโยบายกีดกันเชื้อชาติ อาจจะทำให้ไทยและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียได้รับผลกระทบเนื่องจากเป็นประเทศเศรษฐกิจแบบเปิด
อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าทาง ธปท. จะดูแลตลาดเงินอย่างใกล้ชิดเตรียมรับความผันผวน ด้านผู้ประกอบการส่งออกนำเข้าควรจะติดตามสถานการณ์และทำประกันป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดความเสียหาย ขณะเดียวการทาง ธปท. จะประเมินผลกระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ หลังจากการประกาศนโยบายของทรัมป์อย่างชัดเจน แต่ยังคงตั้งเป้าการขยายตัวของจีดีพีไว้ที่ร้อยละ 3.2