วันนี้ (4 มิย.) พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือเจ้าคุณประสาร เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงกรณีที่คุณอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นผ่านทวิตเตอร์และสื่อได้นำไปเสนอข่าวกรณีที่คุณอมรัตน์ ไม่เห็นด้วยกับประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีที่ใม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาคือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษาและวันออกพรรษา เพราะเห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ค่อยมีเหตุผลหรือแก้ใขให้มีความเหมาะสมเพราะ1.ยังมีมาตรการอื่นฯ2.ปท.เราไม่ได้มีแต่ชาวพุทธ แต่มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา3.แทบไม่มีบังคับแบบนี้ในต่างประเทศเป็นต้น จากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และพูดคุยกันในกลุ่มองค์กรชาวพุทธเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อวานนี้ (3 มิย.) เป็นวันวิสาขบูชา พระสงฆ์สามเณร ส่วนงานต่างๆและชาวพุทธทั่วประเทศต่างช่วยกันประกอบพิธี ทั้งที่เป็นบุญกิริยาและสัมมาปฎิบัติเพื่อความสันติ และสงบสุขของผู้คนในประเทศและโดยพวกเราชาวพุทธก็ไม่เคยคิดเลยว่าเราเป็นเจ้าของประเทศแต่เพียงศาสนาเดียวและเที่ยวไปรุกรานหรือปิดกั้นเสรีภาพของศาสนาอื่นไม่เคยและในวันวิสาขบูชาปีนี้ในส่วนของสมาคมชาวพุทธที่เป็นองค์กรหลักในประเทศก็ได้จัดประชุมสัมมนาทางวิชาการด้านพระพุทธศาสนานานาชาติโดยนิมนต์พระสังฆราช ประมุขสงฆ์ มหานายกะ และผู้นำชาวพุทธจากทั่วโลกมาประชุมกว่า 66 ประเทศผู้เข้าร่วมมากกว่า 3,000 รูป/คน โดยจัดที่มจร และหอประชุมองค์การสหประชาติ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระดมปัญญาในการแก้ใขวิกฤตโลก วันนี้โลกนี้กำลังเผชิญวิดฤตมากมาย ปัญญาอันมีรากฐานมาจากศาสนาจะช่วยคลี่คลายปัญหาต่างๆของชาวโลกได้ ดังนั้นขอให้มองศาสนาในแง่ศีลธรรม ที่ประกอบด้วยสันติ สงบ ร่มเย็นและปัญญาที่ก่อเกิดจากสัมมาทิฎฐิ กรุณาอย่าเอาวันสำคัญทางศาสนาแล้วถือโอกาสนั้นวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งอาจจะทำให้สาวกผู้เคารพเลื่อมใสในศาสนานั้นๆเข้าใจคลาดเคลื่อนในเจตนาของท่านได้และเรื่องแบบนี้ก็อาจจะบานปลายกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ในที่สุด ในขณะนี้องค์กรชาวพุทธทั้งในและต่างประเทศได้ติดต่อมาที่อาตมาในฐานะเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทยเป็นจำนวนมากเพื่อจะได้พูดคุยและกำหนดท่าที่ของขาวพุทธในกรณีดังกล่าวโดยในการพูดคุยและกำหนดท่าทีนั้นจะมุ่งเน้นการใช้ปัญญาในการแสวงหาความจริงให้ปรากฎโดยไม่ประสงค์ที่จะมุ่งเน้นการสร้างวาทกรรมเพื่อให้เกิดความแตกแยกของคนในสังคม
พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ให้สำนักงานกลางศูนย์พิทักษ์ฯแจ้งไปทุกองค์กรว่า ขอให้ทุกท่านช่วยกันบำเพ็ญขันติบารมี แผ่เมตตาให้มาก ทุกคนย่อมมีสิทธิในการวิพากษ์ได้แม้ท่านจะมองเจตนาว่าเป็นการวิพากษ์ในวันสำคัญของชาวพุทธ มองว่าไม่ยกย่องก็อย่าเหยียบย่ำ จึงได้ย้ำไปว่า ขณะนี้ประเทศของเราบอบช้ำมามากแล้ว เราชาวพุทธก็ไม่ควรไปซ้ำเติมสุมปัญหาเข้าไปอีก เพียงแต่อยากบอกทุกคนทุกฝ่ายด้วยเมตตาว่า การเมืองวันนี้ท่านก็ว่าของท่านไป อย่าฟาดอย่าฟันไปทุกเรื่อง ค่อยคิดค่อยทำ อย่าร้อนวิชา อาตมาเรียกร้องให้ใช้สติ สัมปชัญญะให้มากวันนี้ใครรวมกับใครพระไม่มีสิทธิจะไปก้าวล่วง แต่เมื่อนโยบายของท่าน พรรคของท่านแปรเปลี่ยนมาเป็นนโยบายรัฐบาลแน่นอนย่อมมีผลกระทบกับทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์สามเณร ดังนั้นจะพูด จะคิตจะทำอะไรพระพุทธองค์สอนให้มีสติรอบคอบ จะนำประโยชน์มากว่า พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ