ฌอน สไปเซอร์ ว่าที่โฆษกประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 เตรียมใช้อำนาจสูงสุด หรืออำนาจพิเศษ ในฐานะผู้นำ ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยทีมงานด้านการเปลี่ยนผ่านอำนาจ และคณะที่ปรึกษาของทรัมป์ ได้เตรียมแนวทางการใช้คำสั่งมากกว่า 200 รายการ ให้ ทรัมป์ ศึกษาอย่างละเอียด เพื่อเตรียมใช้อำนาจเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศ
นอกจากนี้ สไปเซอร์ ยังได้กล่าวอีกว่า อำนาจพิเศษที่ ทรัมป์ จะเลือกใช้เบื้องต้น คือคลอบคลุมกฏหมายประกันสุขภาพ ข้อตกลงการค้า นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน นโยบายคนเข้าเมือง ตลอดจนนโยบายด้านการบริหารภายในทำเนียบขาว อย่างไรก็ตาม ได้มีหลายฝ่ายคาดการณ์อยู่แล้วว่า หาก ทรัมป์ ใช้อำนาจดังกล่าวจริง น่าจะเข้ามาแก้ไขกฏหมายประกันสุขภาพ โอบามาแคร์ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐทำงานให้กับล็อบบี้ยิสต์ ทั้งในและต่างประเทศ ภายในระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่พ้นตำแหน่ง การถอนตัวออกจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) และการเจรจาแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) กับ แคนาดา และเม็กซิโก
ทั้งนี้ การใช้อำนาจพิเศษของ ทรัมป์ อาจยกเลิกงบประมาณสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยนำเงินส่วนนั้นกลับมาพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำและสิ่งแลดล้อมในประเทศแทน พร้อมระงับการให้ความสนับสนุนด้านงบประมาณให้แก่เมืองใดก็ตาม ที่เจ้าหน้าที่ปล่อยละเลยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายอาศัยอยู่ อย่างไรก็ตาม กระบวนการทำงานของคณะรัฐบาลของ ทรัมป์ ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแทบทุกกระทรวงยังไม่ได้รับอนุมัติจากวุฒิสภา และตำแหน่งระดับรองลงมาอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่ง ทรัมป์ ขอให้เจ้าหน้าที่ในสมัยของ บารัค โอบามา มากกว่า 50 คน ช่วยปฏิบัติงานต่อไปสักระยะ