ซุน จีเหวิน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีน แถลงการณ์ว่า รัฐบาลของพวกเขายินดีทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของ โดนนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เนื่องจาก จีน ต้องการสร้างบรรยากาศการค้าที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ และพร้อมให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในระดับทวิภาคี หลังเชื่อมั่นว่า ปัญหา, ความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติ สามารถแก้ไขได้หากได้เจรจากัน
นอกจากนี้ ซุน จีเหวิน ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การร่วมมือสร้างผลประโยชน์สามารถเกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างไร ความขัดแย้งก็สามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ได้มากเท่านั้น ซึ่งความเห็นดังกล่าว สอดคล้องกับคำพูดของ สี จิ้นผิง ที่เพิ่งกล่าวในที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก “เวิลด์ อีคอนอมิก ฟอรั่ม” หรือ (ดับเบิลยูอีเอฟ) ที่เมืองดาวอส ในสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า ไม่มีผู้ใดชนะในสงครามการค้า อย่างไรก็ตาม วิลเบอร์ รอสส์ ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กลับออกมาตำหนิว่า จีน เป็นประเทศที่มีการกีดกันทางการค้า สมควรถูกตอบโต้อย่างหนักจากสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน เดอะ โกลบอล ไทม์ส หนังสือพิมพ์ชื่อดัง ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุว่า สหรัฐฯ มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง จีน อาจต้องพบกับความยากลำบากในระยะแรก หากเข้าสู่สงครามการค้ากับ สหรัฐฯ แต่สุดท้าย จีน จะเป็นผู้ชนะเหนือ สหรัฐฯ เนื่องจากทีมงานของ ทรัมป์ เป็นพวกหยิ่งยโส และประเมินศักยภาพของ จีน ต่ำไป จนลืมไปว่า จีน คือผู้ซื้อขายรายใหญ่ อาทิ ฝ้าย, ข้าวสาลี, ถั่ว และเครื่องบินโบอิ้ง ที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียด หลัง โบอิ้ง ไม่ต้องการเปิดเผยต่อรายงานดังกล่าว แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะบรรลุข้อตกลงสำคัญกับรัฐวิสาหกิจ ด้านอากาศยานของจีน ในการเปิดโรงงานประกอบชิ้นส่วนเครื่องบิน โบอิ้ง 737 ที่เมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน