สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวในที่ประชุมสหประชาชาติ หรือ (ยูเอ็น) ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า การใช้นโยบายการค้าแบบคุ้มกันดีดตัวเองจากกระบวนการการค้าโลก ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใด และประเทศขนาดใหญ่ไม่ควรเอาเปรียบทางการค้าต่อประเทศที่เล็กกว่า พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมโลกเพิ่มความเป็นเอกภาพในการปกป้องสิ่งแวดล้อม รวมถึงปราบปรามการก่อการร้าย และการลดระดับการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ผู้นำจีนยังได้พูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศอีกว่า การเดินหน้าสร้างกลุ่มพันธมิตรกับทุกประเทศบนโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นการสร้างความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ แต่ยังไม่ลงลึกในรายละเอียด และเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ที่ดีกับรัสเซีย ขณะที่ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการ (ยูเอ็น) กล่าวยกย่อง สี จิ้นผิง ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลก หลังจีนเตรียมก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำโลก ในยุคปัจจุบันที่เป็นพหุภาคี
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อความดังกล่าว ที่ผู็นำจีนได้กล่าวออกมา จะไม่ได้พาดพิงถึงฝ่ายใด แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า น่าจะเป็นการสื่อไปยัง โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการใช้นโยบายต่างประเทศลัษณะต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ ทำให้ สี จิ้นผิง ได้กล่าวตอกย้ำในที่ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก “เวิลด์ อีคอนอมิก ฟอรั่ม” หรือ (ดับเบิลยูอีเอฟ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า