รอยเตอร์ส สื่อชื่อดังจาก อังกฤษ รายงานว่า บริษัท โรลส์-รอยซ์ แห่งสหราชอาณาจักร ตกลงจ่ายเงินค่าปรับจำนวน 671 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ 28,871 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศ อังกฤษ, สหรัฐ และบราซิล เพื่อยอมความ ในคดีติดสินบนและทุจริต หลังจ่ายเงินสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่บริษัทพลังงานของรัฐ 6 ประเทศ รวมถึงประเทศ ไทย เพื่อให้ได้สัญญาทางธุรกิจ
ไบรอัน เลวีสัน ผู้พิพากษาแห่งศาลสูงสหราชอาณาจักร อนุมัติความตกลงระหว่างการพิจารณาคดี ในศาลกรุงลอนดอน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยข้อตกลงมีขึ้นหลังการพิจารณาคดีในศาลนาน 4 ปี ซึ่งคำแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานคดีฉ้อโกงร้ายแรงแห่งแห่งสหราชอาณาจักร (UK. Serious Fraud Office) ระบุว่า บริษัทโรลส์-รอยซ์ ตกลงจ่ายค่าปรับให้รัฐบาล สหรัฐ จำนวน 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, อังกฤษ จำนวน 497 ล้านปอนด์ และ บราซิล 25.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ โรลส์-รอยซ์ ยอมรับว่า ได้จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่บริษัทพลังงานของรัฐบาล 6 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน ไทย บราซิล อาเซอร์ไบจาน อังโกลา และอิรัก รวมจำนวนมากกว่า 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,235 ล้านบาท) เพื่อให้ได้สัญญาทางธุรกิจจริง โดยหลังตกลงยอมความแล้ว วอร์เรน อีสต์ ซีอีโอบริษัทโรลส์-รอยซ์ กล่าวขอโทษว่า นับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวบริษัทได้ปรับปรุงทุกกระบวนการ กฎระเบียบการควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของพนักงาน และตัดลดการใช้คนกลางในการติดต่อธุรกิจ
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งของการติดสินบนในคดีนี้ บริษัทโรลส์-รอยส์ จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ทางการ บราซิล รายหนึ่ง จำนวน 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผ่านคนกลาง เพื่อให้ได้สัญญาจัดซื้ออุปกรณ์น้ำมันจากบริษัท ปิโตรบราส ส่วนกรณีที่ อิรัก คนกลางของ โรลส์-รอยซ์ ติดสินบนเจ้าหน้าที่ทางการอิรักหลายคน หลังจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้แสดงความวิตกเกี่ยวกับเครื่องยนต์ใบพัดที่บริษัทได้ขายให้ การจ่ายสินบนเพื่อชักจูงใจให้เจ้าหน้าที่อิรักยอมรับมอบเครื่องยนต์ และป้องกันไม่ให้อิรักขึ้นบัญชีดำบริษัทโรยส์-รอยซ์ จากการทำธุรกิจในอิรักในอนาคต