ย้ำ !!! ทุกเรื่องจะได้รับการพิจารณา และดำเนินการภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมในการดำเนินการใดๆ
เมื่อวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 : กลุ่มประชาชนจำนวนกว่า 100 ราย ได้เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ขอเข้าพบ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อร้องเรียนร้องทุกข์ในเรื่องที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษที่ปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรม ทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงาน
กรณีแรก สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูจากทุกภูมิภาคซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากขบวนการลักลอบนำเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักร ได้ยื่นหนังสือต่อ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และนายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร เพื่อขอให้พิจารณารับกรณีดังกล่าวไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษ พร้อมทั้งให้ข้อมูลและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้ในเบื้องต้น
ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูให้ข้อมูลว่า เนื้อหมูเหล่านี้มีต้นทางมาจากต่างประเทศ เช่น บราซิล,อาร์เจนติน่า,เยอรมัน และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยจะมีการนำเนื้อหมูเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านศุลกากรต่างๆ โดยสำแดงชนิดสินค้าอันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ทำให้มีราคาต้นทุนถูกกว่าเนื้อหมูที่มีการเลี้ยงและจำหน่ายภายในประเทศเกือบครึ่งหนึ่ง ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในประเทศได้รับผลกระทบไม่สามารถจำหน่ายเนื้อหมูตามราคากลไกของตลาดได้ เป็นเหตุได้รับความเดือดร้อน รายได้ลดลงไปถึง 30-40% ซึ่งหากภาครัฐไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ อาจมีผลในระยะยาวกระทบเป็นวงกว้างถึงกลุ่มเกษตรกรพืชไร่ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารสุกรด้วย สำหรับลักลอบนำเข้าเนื้อหมูดังกล่าว คาดว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐ บริษัทขนส่ง และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนกว่า 50 ราย ร่วมกันทำเป็นขบวนการ มีการสำแดงชนิดสินค้าอันเป็นเท็จหลีกเลี่ยงภาษีอากรตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2565 เป็นเหตุให้รัฐสูญเสียรายได้จากการเรียกเก็บภาษีเป็นจำนวนกว่า 4,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาได้เคยมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไว้ในส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ทราบผลความคืบหน้าในการดำเนินการ ในวันนี้จึงมีความประสงค์ขอให้กรมสอบสวน
คดีพิเศษพิจารณารับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ
กรณีที่สอง กลุ่มผู้เสียหายกรณี บริษัท เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โฆษณาชักชวนให้ประชาชนซื้ออาคารชุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าพบ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน และนายระวี อักษรศิริ รองผู้อำนวยการกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เพื่อสอบถามขั้นตอนและความคืบหน้าในการดำเนินคดีฟอกเงินในส่วนของมาตรการทางแพ่ง รวมทั้งความคืบหน้าในภาพรวมของคดีพิเศษดังกล่าว รวมทั้งให้กำลังใจแก่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่มีความมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย
สำหรับกรณีนี้ สืบเนื่องมาจากมีผู้ได้รับความเสียหายจากการลงทุนซื้ออาคารชุดกับ บริษัท เดอะ นิว คอนเซปท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งมีโครงการในจังหวัดเชียงใหม่ 12 โครงการ และจังหวัดอื่นๆ แต่ต่อมาบริษัทฯ ไม่ได้ก่อสร้างอาคารตามที่มีการโฆษณาไว้ ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายกว่า 2,000 คน มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และยึด/อายัดทรัพย์สิน ทั้งอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ไว้ทั้งสิ้นรวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการส่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปยังสำนักงาน ป.ป.ง. พิจารณาดำเนินตามอำนาจหน้าที่เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายไว้ในอีกส่วนหนึ่งแล้ว
ด้าน พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวหลังจากได้รับฟังข้อมูลทั้งสองกรณีดังกล่าวว่า ได้รับทราบและเข้าใจปัญหาทุกมิติของประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความสำคัญ และจะพิจารณาทุกเรื่องที่มีการร้องเรียนร้องทุกข์มายังกรมสอบสวน
คดีพิเศษตามกรอบอำนาจหน้าที่อย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะติดต่อมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษผ่านช่องทางสื่อสารใดพร้อมทั้งขอขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ให้ความเชื่อมั่นต่อการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ
โดยเดินทางมายื่นเรื่องด้วยตนเองในวันนี้
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งเบาะแส ร้องเรียนร้องทุกข์ รวมทั้งติดตามความคืบหน้า ได้ทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งติดต่อด้วยตนเองที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือผ่านทางโทรศัพท์ โทร.0-2831-9888 สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ โทร.1202 ในวันและเวลาราชการ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน E-mail : dsi@dsi.go.th โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมในการดำเนินการใดๆ
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน