การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ คาดว่าจะมีการพิจารณามาตราการช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้เพิ่มเติม หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งในทุกสัปดาห์ จะมีการประชุม คสช. ก่อนประชุม ครม. โดยต้องจับตา ว่า จะมีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 หรือไม่ หลังมีรายงานว่าจะมีตั้งคณะกรรมการปรองดองรวมถึงไปถึงเร่งรัดและแก้ไขการทำงานอื่นๆ ที่ยังเกิดข้อติดขัด ทำให้รวดเร็วขึ้น
ส่วนวาระที่น่าสนใจ ด้านกระทรวงการคลัง จะเสนอที่ประชุม พิจารณา ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติม เพื่อลดภาระทางภาษี ประชาชน ผู้ประกอบการ หลังปริมาณน้ำลดลง
โดยให้บุคคลธรรมดา และนิติบุคคลสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและสำนักงาน มาลดหย่อนภาษีได้ สูงสุด 100,000 บาท โดยกรมสรรพากรสามารถออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อบังคับใช้ได้ทันทีหลัง ครม.อนุมัติ
สำหรับ เกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย จะเสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบ ให้ ธนาคารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ออกมาตาการช่วยเหลือ ทั้งการให้กู้เงินเพื่อฟื้นฟู 5 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 นาน 6 เดือน มาตรการ ขยายเวลาการชำระหนี้นาน 2 ปี ลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 3 และการปล่อยกู้เพิ่มเติมตามความจำเป็น สูงสุด 3 แสนบาท คิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน นานสูงสุด 10 ปี
ด้านธนาคารออมสิน เสนอปรับเงื่อนไขในวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ เอสเอ็มอี ที่ประสบอุกภัยน้ำท่วมในภาคใต้
ขณะที่ กระทรวงการคลังยังเตรียมเสนออนุมัติ จัดตั้งกองทุนพัฒนา SME โดยกองทุนดังกล่าวจะเป็นการทำงานร่วมกัน ระหว่างกระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรม โดยผ่านกลไกสถาบันการเงินภาครัฐ เพื่อช่วยเหลือ SME เป็นการเฉพาะ ซึ่งนอกจากการปล่อยสินเชื่อแล้ว ยังจะส่งเสริม SME ทุกกลุ่ม ทั้งเกษตร อุตสาหกรม ท่องเที่ยว และบริการ ซึ่งระหว่างนี้สถาบันการเงินแต่ละแห่ง จะไปคิดรูปแบบโครงการ
ส่วนวาระ ครม.อื่นๆ เตรียมพิจารณามาตรการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของโลกด้วยและพิจารณา ร่างแผนแม่บท ส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560 -2564