การรักษาผิวหน้าด้วยเลเซอร์และผลัดเซลล์ผิวแบบใหม่ ที่เหมาะกับคนผิวสีโดยเฉพาะ เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดสีคล้ำที่ไม่สม่ำเสมอกันบนใบหน้าเหมือนกับวิธีการแบบเก่า
ก่อนหน้านี้แพทย์ผิวหนัง เคยออกคำเตือนคนผิวสีที่ต้องการจะทำเลเซอร์รักษาผิวหน้า และผลัดเซลล์ผิว เนื่องจากเลเซอร์อาจก่อให้เกิดการสร้างเม็ดสีบนผิวที่เข้มผิดปกติ ขณะที่วิธีการอื่น ๆ เช่น การลอกผิวด้วยยาที่ออกฤทธิ์แรง จะทำให้ผิวหนังชั้นบนถูกลอกออก และทำให้ใบหน้าอาจมีสีคล้ำที่ไม่สม่ำเสมอกัน หรือเกิดเป็นฝ้าได้ นอกจากนี้ ยังเสี่ยงเกิดแผลเป็นหลังการรักษา หรือคีลอยด์ ซึ่งคนผิวสีมีแนวโน้มที่จะพบปัญหาเช่นนี้มากกว่าคนผิวขาว
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมความสวยความงามเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งสหรัฐอเมริการะบุว่า ความต้องการดูแลผิวหน้าของกลุ่มคนผิวสีเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องในปี 2017 จากเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด และคาดการณ์ว่าการผลัดเซลล์ผิวหน้าจะได้รับความนิยมอย่างมากในปีนี้ การรักษารูปแบบใหม่จึงถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้ปลอดภัยต่อคนผิวสี
ดร. เพิร์ล กริมส์ ศาสตราจารย์ด้านการรักษาผิวหนังจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส เผยถึงกระบวนการทำงานของเลเซอร์และผลัดเซลล์ผิวแบบใหม่ว่า มันจะรักษาเพียงชั้นผิวด้านบน ไม่เจาะลึกลงไปถึงผิวชั้นใน ที่จะเป็นสาเหตุให้เกิดแผลเป็น หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเทคโนโลยีใหม่นี้ สามารถรักษาผิวหนังในจุดที่ต้องการได้แม่นยำขึ้นอีกด้วย
แม้ว่าการรักษาแบบใหม่จะใช้วิธีที่อ่อนโยนลง แต่ประสิทธิภาพในการรักษาไม่ได้ลดลงตามไปด้วย โดยแพทย์แนะนำให้เข้ารับการรักษา 3-5 ครั้ง ในช่วง 2-4 สัปดาห์ เทย์ยิก้า เดนนิส หนึ่งในผู้รับการรักษาแบบใหม่ พอใจกับผลการรักษา เพราะสามารถแก้ปัญหาผิวหน้าของเธอได้อย่างเห็นผล