ตัวอย่างสภาพรถไฟตู้นอนที่น้องแก้มโดยสาร ก่อนเกิดเหตุ โดยเป็นรถนอนชั้น 2 แบบพัดลม ซึ่งน้องแก้ม
นอนอยู่เตียงชั้นล่างโบกี้ที่ 3 ขณะที่คนร้ายกินเหล้าเมาอยู่โบกี้ที่ 4 ก่อนเดินผ่านและเกิดอารมณ์ทางเพศ
ลงมือข่มขืนน้องแก้ม พร้อมเปิดหน้าต่างเพื่อกลบเสียง และทิ้งร่างน้องแก้มลงข้างทาง
นับเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สร้างความสลดหดหู่ให้กับผู้ที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก จากกรณีที่ น้องแก้ม
เด็กหญิงวัย 13 ปี หายตัวไปจากโบกี้รถไฟ ขณะเดินทางจากสุราษฎร์ธานีกลับกรุงเทพฯ กับพี่สาว
อายุ 22 ปี เพื่อนชายพี่สาว และน้องสาวอายุ 10 ปี รวม 4 คน เมื่อช่วงตี 4 ของวันอาทิตย์ที่
6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุด (7 กรกฎาคม 2557) นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี
พนักงานปูเตียงรถไฟ ก็ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือข่มขืนกระทำชำเราน้องแก้ม ก่อนที่จะโยน
ร่างของน้องแก้มทิ้งออกนอกหน้าต่าง ขณะที่รถไฟวิ่งผ่านสถานีวังพงก์
อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์ดังกล่าว หลายคนเริ่มกังวลถึงความไม่ปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟดังกล่าว
โดยดูจากองค์ประกอบหลาย ๆ อย่างแล้ว แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าน้องแก้มจะโชคร้ายขนาดนั้น
เนื่องจากการเดินทางโดยรถไฟมีผู้โดยสารและพนักงานมากมาย อีกทั้งยังเดินทางกับครอบครัว
โดยมีพี่สาว 1 คน เพื่อนชายของพี่สาว และน้องสาว
โดยทั้งหมดได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังสุราษฎร์ธานี เพื่อไปเยี่ยมย่า ส่วนขากลับ น้องแก้ม
และครอบครัวได้เดินทางจากสุราษฎร์ มายังกรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านที่จังหวัดนนทบุรี โดยขึ้น
รถไฟขบวน 174 ที่ อ.พุนพิน เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 5 กรกฎาคม 2557 โดยมีกำหนด
ถึงกรุงเทพฯ เช้าของวันที่ 6 กรกฎาคม
ทั้งนี้ น้องแก้มและครอบครัว ได้โดยสารรถนอนชั้น 2 แบบพัดลม โบกี้ที่ 3 นอนรวมกัน 4 คน
ซึ่งสภาพรถไฟแบบตู้นอนนั้น ไม่มีประตูกั้นระหว่างโบกี้ ส่วนที่นอนมีเพียงแค่ม่านกั้นเฉย ๆ
โดยน้องแก้มนอนที่ชั้นล่าง
…และขณะที่ผู้คนมากมายกำลังหลับใหล จู่ ๆ ไฟฟ้าก็ดับ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ไฟดับ
เพียงโบกี้เดียว นั่นก็คือโบกี้ที่น้องแก้มนอนอยู่ โดยนายวันชัยได้ให้การรับสารภาพว่า ก่อน
เกิดเหตุตนเองนั้น กินเบียร์กับเพื่อนจนมึนเมาที่โบกี้ที่ 4 ติดกับโบกี้ที่ 3 ที่น้องแก้มนอนอยู่
และขณะที่เดินผ่านโบกี้ที่ 3 ได้เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงตรงเข้าไปทำร้ายร่างกายและข่มขืน
กระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ โดยนายวันชัย แสงขาว ได้เปิดหน้าต่าง เพื่อที่จะให้เสียง
จากภายนอกเข้ามากลบเสียงภายในโบกี้ ทำให้ไม่เป็นที่ต้องสงสัยจากผู้โดยสารรายอื่น ๆ
ก่อนที่จะโยนร่างน้องแก้มทิ้งกลางทาง และลงมือทำความสะอาด เก็บเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว
รวมถึงผ้าปูที่นอนที่เปรอะคราบเลือด โยนทิ้งออกนอกหน้าต่างในเวลาต่อมา
จนกระทั่งพี่สาวตื่นมาเพื่อไปปลุกน้องแต่ไม่เจอ.. จึงได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อมา
ก็ต้องหัวใจสลาย เมื่อน้องแก้มที่เดินทางมาด้วยกันนั้น กลายเป็นศพถูกทิ้งลงข้างทางอย่างไม่ไยดี
โดยไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ ในรถไฟที่มีผู้ใช้บริการจำนวนมาก