11 ม.ค. 60 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.รองผบ.ตร. เป็นประธานประชุมคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับตัวแทนกองบัญชาการตำรวจภูธร(บช.ภ.)1-9 ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้(ศชต.) และตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) หลังพบการทุจริตสอบนายสิบตำรวจ(นสต.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) และ บช.ภ.7 โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า1ชั่วโมงครึ่ง
พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ตน เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสรุปผลแล้วเสนอให้ ผบ.ตร. ผิดจารณาในวันที่ 16 มกราคม นี้ ว่าจะให้การสอบดังกล่าวเป็นโมฆะทั้งหมด หรือโมฆะบางส่วน หรืออาจจะมีแนวทางอื่นๆ โดยยึดหลักการทำงาน 3 ประการ คือ 1.ต้องรวดเร็วในการตรวจสอบข้อเท็จจริง 2.ต้องรอบคอบ สามารถแยกแยะได้ว่ามีการกระทำผิดในรูปแบบใดบ้าง และ 3.ต้องมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้สมัครสอบและสอบผ่านการสอบโดยสุจริต อย่างไรก็ตาม จากรายงานสนามสอบจาก12กองบัญชาการ พบว่ามี 2 กองบัญชาการ พบพิรุธการทุจริตสอบได้แก่ บช.น. และ บช.ภ.7 ทั้งนี้ บช.ภ.7 มีผู้สมัครสอบทั้งสิ้น 4,182 คน มาสอบ 3,746 คน พบทุจริตกว่า 30 คน ส่วนอีก 10 กองบัญชาการไม่พบการทุจริต พร้อมกันนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการแต่ละภาค ไปตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง โดยมีการนำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าจะมีกระบวนการขั้นตอนอย่างไร
พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวถึงแรงจูงใจที่มีการทุจริตเฉพาะ บช.น. กับ บช.ภ.7 ว่า ทั้ง2กองบัญชาการมีพื้นที่อยู่ใจกลางและใกล้เมืองหลวง เป็นศูนย์รวมผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ บช.ภ.7 มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร ทำให้คนเหล่านี้เดินทางไปมาสะดวก ปะปนเข้ามาร่วมสอบเพื่อทุจริตได้ง่ายกว่ากองบัญชาการภาคอื่นๆ ส่วนการดำเนินการกับผู้ทุจริตขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับจำนวนหนึ่งแต่ไม่ขอเปิดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ นอกจากนี้ตนยังได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เข้าไปร่วมตรวจสอบกับ บช.น. หากพบคนกระทำความผิดมากกว่านี้จะต้องเร่งดำเนินการ โดยขณะนี้ พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. อยู่ระหว่างการรวบรวม พยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง