เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายสุพจน์ เจิมสวัสดิพงษ์
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทบ.) พร้อมด้วยนายสมหมาย เตชาวาล ผู้ตรวจราชการทบ.
ร่วมแถลงข่าวผลกระทบคุณภาพน้ำบาดาล อันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ
ของประเทศไทย
นายสุพจน์ กล่าวว่า เนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวทางภาคเหนือมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ต.ทรายขาว อ.พาน
จ.เชียงราย ก่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.พาน แม่ลาว แม่สรวย เมืองเชียงราย
เวียงชัย ป่าแดด และพญาเม็งราย ส่งผลทำให้ระดับน้ำใต้ดินบางแห่งลดต่ำกว่าปกติ และบางแห่ง
ไม่สามารถใช้บริโภคได้ ทั้งนี้จากการเก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำตื้นและบ่อน้ำบาดาลของชาวบ้าน
ในพื้นที่ไปตรวจสอบ 137 แห่ง ส่วนใหญ่คุณภาพน้ำบาดาลทางด้านเคมีอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้น
บ่อน้ำตื้นที่มีทรายไหลเข้าบ่อเท่านั้นที่มีความขุ่นเกินมาตรฐานที่จะใช้บริโภค บางบ่อมีกลิ่นเหม็น
แต่ไม่พบซัลไฟด์หรือกำมะถัน ซึ่งกลิ่นดังกล่าวอาจเป็นกลิ่นก๊าซที่เกิดจากกระบวนการหมักของ
เสียสิ่งปฏิกูล เนื่องจากในบางพื้นที่ถังปฏิกูลในห้องสุขาของแต่ละครัวเรือน รวมถึงวัสดุปูพื้นของ
แหล่งฝังกลบขยะประจำชุมชนที่อยู่ในระดับเดียวกับชั้นน้ำบาดาลระดับตื้นได้รับความเสียหาย
และมีรอยรั่ว ตรวจพบเชื้อแบคทีเรียอิโคไล ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการท้องเสียบ่อยๆ
อุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำ แต่จะมีอาการไม่รุนแรง เพราะคนเรามีภูมิต้านทานโรคอยู่บ้าง และปกติ
เราสามารถพบเชื้อดังกล่าวได้ในอุจจาระอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่มีอาการอะไร หากชาวบ้านจะขุดบ่อ
น้ำตื้นเพื่อนำน้ำมาใช้อุปโภคบริโภคควรเก็บตัวอย่างและส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพน้ำ
ก่อนใช้ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ
อธิบดีทบ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้จากเหตุแผ่นดินไหว ทำให้เราพบแหล่งน้ำซึมน้ำซับเพิ่มมากขึ้น และ
ลำห้วยที่ไม่มีน้ำไหลในช่วงฤดูแล้ง ปรากฏว่ามีน้ำไหลตลอดเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการ
รั่วซึมของน้ำบาดาลจากชั้นน้ำบาดาลระดับตื้นไหลเติมให้น้ำผิวดิน ที่มีการเปลี่ยนแปลงทาง
โครงสร้างของชั้นดิน ชั้นหินให้น้ำและศักยภาพของแหล่งน้ำบาดาลระดับตื้นมีสภาพเปลี่ยนไป
ซึ่งถือเป็นผลดีที่ชาวบ้านในพื้นที่จะได้ใช้ประโยชน์เพิ่มเติมมากขึ้น อย่างไรก็ตามทางทบ.
จะติดตามเฝ้าระวังทรัพยากรน้ำบาดาลทางด้านคุณภาพน้ำและปริมาณน้ำ รวมทั้งศึกษาผล
กระทบต่อแหล่งน้ำบาดาลหรือการปนเปื้อนจากของเสียปฏิกูลหรือของเสียอันตรายต่อไป