วันที่ 1 เมษายน 2566 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางมาแนะนำและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. .เพชรบูรณ์ พรรคก้าวไกล ทั้ง 6 เขต ที่สวนสาธารณะเพชะบุระ(จวนผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณฺ์เก่า)โดยตั้งแต่ช่วงเช้า นายธนาธรพร้อมว่าผู้สมัคร สส.ได้ทำกิจกรรมหาเสียงกับพี่น้อง ประชาชนที่มาออกกำลังกายและประชาชนในละแวกดังกล่าว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับชื่นมื่นและขอถ่ายเซลฟี่กันอย่างคึกคัก
นายธนาธร กล่าวกับผู้มาฟังการปราศัยว่า ตนมาให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพชรบูรณ์ ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ส่งลงครบทั้ง 6 เขต ทุกคนมีความพร้อมเตรียมตัวมาเป็นเวลาร่วมปี และลงพื้นที่เพื่อรับทราบถึงปัญหาในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื้อหาของการปราศรัยของนายธนาธรเน้นย้ำถึงปัญหาสภาพทางเศรษฐกิจของประชาชนในปัจจุบัน ที่เป็นสาเหตุความจำเป็นของการมีรัฐสวัสดิการ โดยนายธนาธรระบุว่า ช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแต่ห่างขึ้นทุกวัน สถานการณ์โควิดในรอบสามปีที่ผ่านมายิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง ประชาชนหมดสิ้นความหวัง ในสถานการณ์แบบนี้สังคมไทยต้องมีรัฐสวัสดิการรองรับคนที่พ่ายแพ้ไม่ให้ถูกบดขยี้จากสภาพสังคมปัจจุบัน
ประเทศไทยวันนี้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสังคมสูงวัย เด็กเกิดใหม่ลดจำนวนลงเหลือปีละ 5 แสนคน คนไม่อยากมีลูกเพราะการมีลูกมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ยิ่งทำให้คนมีลูกน้อยลง จะแก้ปัญหานี้ได้ต้องมีรัฐสวัสดิการเท่านั้น เพื่อเป็นกลไกให้คนยืนอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคง ไขว่คว้าหาความฝันในชีวิต เลือกเส้นทางชีวิตเดินได้
นายธนาธรยังกล่าวต่อไป แต่ทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้ถ้าไม่มีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ ในการหางบประมาณมาสร้างรัฐสวัสดิการ เช่น การปฏิรูปกองทัพ ลดงบประมาณกองทัพที่ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ ทุกวันนี้กองทัพเข้ามาทำเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่มากมาย ทั้งหวย มวย ม้า สนามกอล์ฟ รีสอร์ต หากเราสามารถยกเลิกธุรกิจกองทัพได้ ประเทศเราจะมีเงินประมาณคืนกลับมาได้ถึง 5 หมื่นล้านบาทต่อปี รวมทั้งเก็บภาษีคนรวยมาดูแลคนจน เช่น ภาษีนิติบุคคลที่เรียกเก็บจากบริษัทขนาดใหญ่ ยกเลิกสิทธิ BOI ที่ให้กับบริษัทขนาดใหญ่ระดับร้อยล้านพันล้านขึ้นไป ถ้าทำสำเร็จจะได้อีก 8 พันล้านบาทต่อปี รวมถึงการเก็บภาษีความมั่งคั่ง จากคนรวยที่มีทรัพย์สินเกิน 300 ล้านบาท จะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 6 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าหากเพียงสามารถดึงงบประมาณเหล่านี้ออกมาจากมือของกองทัพ ระบบราชการ และนโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ การทำรัฐสวัสดิการก็ไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องเดียวที่ยากคือการมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ในการปฏิรูปกองทัพ ระบบราชการ และระบบภาษี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีใครกล้าพอที่จะแก้ปัญหาเรื่องยากๆ เหล่านี้ มีแต่เพียงนโยบายปะผุไปเป็นครั้งๆ วันนี้สังคมไทยยิ่งต้องการการปฏิรูปเรื่องยากๆ แบบนี้ และวันนี้มีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่กล้าทำ กล้าพูดในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าพูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน
“พรรคก้าวไกลจะต่อสู้แทนทุกท่าน พร้อมยืนเคียงข้างผู้ถูกกดขี่ ผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรม นี่คือเหตุผลที่มีพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมา และกลายมาเป็นพรรคก้าวไกลในวันนี้ ใครทึ่ได้เลือกพรรคอนาคตใหม่ปี 2562 แล้วรู้สึกว่าคุ้มมากตนขอบอกเลยว่าก้าวไกลปี 2566 ดีกว่าอนาคตใหม่ 2562 เสียอีก สี่ปีที่ผ่านมาพวกเรามีประสบการณ์และเข้มแข็งมากขึ้น ก้าวไกล 2566 จะเป็นการลงทุนที่คุ้มกว่าเดิมสำหรับทุกท่าน ขอให้ประชาชนจ้างพวกเราไปปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนด้วยการไปช่วยกันกากบาทเลือกพรรคก้าวไกลในวันที่ 14 พฤษภาคม อนาคตใหม่ก้าวไกล เพื่อประเทศไทยไม่เหมือนเดิม จากนั้นนายธนาธรได้ขึ้นรถแห่ปราศัยไปตามถนนรอบเมืองเพชรบูรณ์และเดินทางไปทำกิจกรรมหาเสียงในพื้นที่อำเภอหล่มสักและอำเภอเขาค้อต่อไป
สำหรับว่าผู้สมัคร สส.พรรคก้าวไกล ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทั้ง 6 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายกฤติเดช แก้วเพียร เขต 2 นายยุทธชัย คำตัด เขต 3 นายศิริวิชช์ ทองคำ เขต 4 นายหลุย บุญสะอาด เขต 5 นายนันทวัฒน์ บุญถูก และ เขต 6 นางสาวภิญญาภัทร อาภากฤษฎี