สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ดักจับข้อมูลการสื่อสารออนไลน์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไป
มากกว่าผู้ที่เป็นเป้าหมายที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายหลายเท่าตัว…
สำนักข่าว ‘วอชิงตัน โพสต์’ รายงานเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 ก.ค. ว่า จากการสืบสวนนานกว่า 4 เดือนของพวกเขา
พบว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) ของสหรัฐฯ แอบเก็บรวบรวมข้อมูลการสื่อสารของผู้ใช้
อินเทอร์เน็ตทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายทั้งชาวอเมริกันและอื่นๆ มากกว่าเป้าหมายชาวต่างชาติ ซึ่งได้รับ
อนุญาตให้สอดแนมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายถึง 9 ใน 10 ภายในเวลา 4 ปี
วอชิงตัน โพสต์รายงานอีกว่า กว่าครึ่งของการสอดแนมดังกล่าวประกอบด้วยชื่อ, ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่นๆ
ที่เอ็นเอสเอระบุว่าเป็นของพลเมืองหรือผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ขณะที่เอ็นเอสเอพยายามปกป้องความเป็น
ส่วนตัวของคนเหล่านี้ ด้วยการปกปิดหรือลดขนาดข้อมูลกว่า 65,000 รายการ แต่วอชิงตัน โพสต์ ค้นพบ
ที่อยู่อีเมล์ที่ไม่ได้รับการปกปิดเกือบ 900 บัญชี ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับพลเมืองและผู้อาศัยในสหรัฐฯ
ขณะที่ข้อความที่เอ็นเอสเอดักจับได้ บาวส่วนเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ด้านการข่าวกรอง เช่น ข้อมูลลับ
ของโครงการนิวเคลียร์ในต่างประเทศ, การตีสองหน้าของพันธมิตร หรือตัวตนของผู้บุกรุกเครือข่าย
คอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นการติดตามการสื่อสารระหว่างผู้ใช้ 50 คน ซึ่งนำไปสู่
การจับกุมชายชาวปากีสถานในปี 2011 ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยผลิตระเบิดก่อการร้ายบนเกาะบาหลี
เมื่อปี 2002
วอชิงตัน โพสต์ ยังได้รับข้อมูลจากเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน จอมฉแอดีตเจ้าหน้าที่ของเอ็นเอสเอว่าในช่วงปี
2009-2012 เอ็นเอสเอดักจับข้อมูลการสื่อสารผ่านอีเมลและข้อความด่วนกว่า160,000 ข้อความ
บางส่วนมีความยาวหลายร้อยหน้า รวมถึงเอกสารอีก 7,900 ฉบับ ที่ดักจับมาจากผู้ใช้งานออนไลน์
11,000 บัญชี
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการสื่อสารประจำวันของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายมากกว่า 10,000 คน
และรูปภาพส่วนบุคคลกว่า 5,000 รูป ถูกเอ็นเอสเอเก็บรวบรวมเอาไว้โดย ซึ่งวอชิงตัน โพสต์ระบุว่า ข้อมูล
ดังกล่าวบอกเล่าเรื่องรักๆใคร่ๆและการอกหัก, การลักลอบมีสัมพันธ์เชิงชู้สาว, ปัญหาสุขภาพจิต, ความ
เปลี่ยนแปลงทางการเมืองและศาสนา,ความกังวลในเรื่องการเงิน และความผิดหวังในเรื่องต่างๆ
ซึ่งถูกระบุว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อการข่าวกรอง
ทั้งนี้ ข้อมูลที่สโนว์เดนมอบให้ วอชิงตัน โพสต์ มาจากปฏิบัติการภายในประเทศของเอ็นเอสเอภายใต้
คณะกรรมการที่ได้รับอำนาจจากสภาคองเกรสเมื่อปี 2008 ตามกฎหมายการสอดแนมและข่าวกรอง
ต่างประเทศฉบับแก้ไข ซึ่งตามกฎหมายเอ็นเอสเอสามารถสอดแนมเป้าหมายได้เพียงชาวต่างชาติ
ที่อาศัยอยู่นอกประเทศ นอกจากได้รับคำสั่งศาลการสอดแนมพิเศษเท่านั้น
แต่ในกรณีล่าสุดตามข้อมูลของสโนว์เดน เอ็นเอสเอเก็บข้อมูลการสื่อสารทั้งหมดของผู้ที่ใช้งานห้องแชต
ออนไลน์ห้องหนึ่ง ที่เป้าหมายคนหนึ่งเข้าใช้งาน รวมถึงผู้ใช้งานเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ที่มีเจ้าของเป็น
เป้าหมายของเอ็นเอสเอ ก็ถูกสอดแนมข้อมูลเช่นกัน