วันที่ 29 มี.ค.66 เวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) : นายสันธนะ ประยูรรัตน์ หรือ “รองต่อ” อดีตนายตำรวจสันติบาล เดินทางมาที่ อาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อติดต่อขอเข้าพบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการที่พยายามจ่ายเงินเพื่อปกปิดคดี รวมทั้งจะแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเงินสองถุงที่มีบุคคลนำไปมอบให้กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักแฉชื่อดังอีกด้วย
นายสันธนะฯ กล่าวว่า ตนทราบมาว่า เงินที่ถูกนำไปมอบให้กับนายชูวิทย์ฯ นั้นไม่ใช่เงินของสารวัตรซัว ตามที่เป็นข่าว แต่เป็นเงินของนายอ๊อด เป็นผู้นำเงินมามอบให้นายชูวิทย์ฯ นำไปทำบุญ ซึ่งนายอ๊อด นั้นเชื่อมโยงถึงกลุ่มทุนสถานบริการอาบอบนวด ย่านรัชดา (เดอะลอร์ด) เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนายชูวิทย์ฯ โดยตามภาพที่เห็นมีนายพลเปี๊ยก อดีตนายตำรวจ ตามที่เคยมีข่าวทางสื่อออกไปแล้ว เป็นภาพเก่าตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2565 ซึ่งขณะนั้นตอนที่มีการนำเงินไปให้นายชูวิทย์ฯ ไม่ได้อยู่รับ ก่อนจะมีการนำมามอบให้ภายหลัง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ส่วนเหตุผลที่นายชูวิทย์ฯ จะสมอ้างว่าเป็นเงินของสารวัตรซัวนั้น ตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด แต่เชื่อว่าอาจเป็นการปกปิดที่มาของเงิน และของยืนยันว่ารองเลขาฯปปง. ที่ถูกนายอัจฉริยะฯ กล่าวหาว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายสันธนะฯ กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ตนก็จะมาติดตามความคืบหน้าในคดีที่เคยแจ้งเบาะแสเพื่อเอาผิดสารวัตรซัวที่พบความเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีคนสนิทของสารวัตรซัว แชทมาคุยกับตน เพื่อขอเคลียร์ไม่ให้เปิดโปงการทำธุรกิจเว็บพนันด้วย
นายสันธนะฯ กล่าวต่อด้วยว่า ส่วนประเด็นที่ศาลอาญารับฟ้อง คดีหมิ่นประมาทนายชูวิทย์ฯ กรณีกล่าวหาโรงแรมเดวิสเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด โดยนัดตรวจหลักฐานในวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นี้ว่า ตนไม่กังวลและถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ตัวเองจะได้ตั้งตัวสู้คดี เนื่องจากพนักงานสอบสวนที่ทำคดี มีการรวบรวมพยานหลักฐานเท็จมากล่าวหาตัวเอง โดยยืนยันว่ามีหลักฐานที่จะใช้ยืนยันในชั้นศาล เป็นคลิปจากมือถือ จำนวน 3 เครื่อง ซึ่งสามารถระบุภาพ เสียง และเวลาเกิดเหตุได้อย่างชัดเจน ตนขอท้านายชูวิทย์ฯ มาเดิมพัน 100 ล้าน หากว่าตัวเองชนะคดีในชั้นศาล ส่วนตัวทนาย นายอนันตชัย ไชยเดช ก็จะต้องคืนตั๋วทนายความทันที และถ้าตนแพ้คดีนี้ ก็จะขอหายไปจากวงการทันทีด้วย
หลังจากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ พ.ต.อ.หญิง จุฬาลักษณ์ วรรณา ผกก.ศฝร.บชก.เป็นผู้มารับมอบหลักฐาน ก่อนนำเสนอไปยังพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พิจารณาต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน