สิวเสี้ยน …เสี้ยนหนามตามรังควานผิว
สาว ๆ หลายคนยอมรับว่า ต่อให้หน้าใส เนียนกิ๊ง ยังไง้ยังไงก็ต้องมี สิวเสี้ยน บริเวณจมูก และคางมากวนใจ ทําให้หน้าใส ๆ ไม่สวยเต็มร้อย เอาละ! เราจะมาหาทางออกของปัญหานี้กัน
สิวเสี้ยน…เห็นทีไรแทงใจจี๊ดๆ
เชื่อไหมว่า สิวเสี้ยนเป็นได้ตั้งแต่สาวแรกรุ่นอายุ 16 ปี ไปจนถึงสาวรุ่นเดอะอายุ 60 ปีเลยนะ แหม! เหนียวแน่นมั่นคง (กับใบหน้า) ขนาดนี้ มีที่มาอย่างไร
เจ้าสิวเสี้ยน เกิดจากความผิดปกติของรูขุมขน คือมีกระจุกขนอ่อนเส้นเล็ก ๆ หลายสิบเส้น และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอุดตันอยู่ในรูขุมขน ไม่ยอมผลัดร่วงไปตามปกติ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ
– ชนิดหัวขาว เป็นไขสีขาว เกิดจากไขมันรวมตัวกับเศษเซลล์ผิวที่ค้างอุดตันในรูขุมขน ถ้ามีสิ่งสกปรกที่รูเปิดต่อมไขมันมาก ส่วนหัวอาจเป็นจุดสีดํา มักเป็นกับคนผิวมัน
– ชนิดหัวดํา เกิดจากการมีขนเส้นเล็ก ๆ ตั้งแต่ 5 – 50 เส้น รวมกันอยู่ในรูขุมขนเดียวกัน ทําให้รูขุมขนกว้าง และใบหน้าเป็นจุดดํา ๆ ไม่เนียนเรียบ คนผิวธรรมดาที่มีขนมากมักเป็นสิวเสี้ยนประเภทนี้
ตัวการเสี่ยงทําให้เกิดสิวเสี้ยน
ฮอร์โมนเพศ มีผลกระตุ้นให้ต่อมไขมันทํางานมากขึ้น เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามาก จะเกิดการอุดตันได้ง่าย
การรบกวนผิวมาก ๆ เช่น ถูหน้าแรง ๆ ขัดผิวบ่อย ๆ ซึ่งเป็นการรบกวนรูขุมขน และต่อมไขมัน ทําให้รากขนแตก เกิดเป็นขนคุดอยู่ข้างใน
เอามันออกไป !
เรากําจัดสิวเสี้ยนได้หลายวิธี ถึงแม้จะทําให้มันหายขาดไม่ได้ แต่ถ้าขยัน สิวเสี้ยนก็จะลดน้อยลงเอง
– ดึงสิวเสี้ยน หรือขนเส้นเล็ก ๆ ออก โดยใช้แหนบดึง หรือใช้ที่กดสิวกดออกเบา ๆ
– การทายาละลายสิวเสี้ยน ได้แก่ ยาในกลุ่มกรดวิตามิน (กรดผลไม้) อย่าง AHA และ BHA ซึ่งช่วยให้เซลล์ผิวที่อุดตันในท่อรูขุมขนหลุดออกมา เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาสิวเสี้ยนหัวขาว แต่ต้องทําใจนะ เพราะรักษาไม่หายขาด ต้องทายาตลอด ยานี้นอกจากละลายสิวเสี้ยนได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ทําให้รอยดําต่าง ๆ จางลง หน้าจึงใสขึ้น
– การแว็กซ์ขน ทําได้โดยการใช้สําลีชุบไข่ขาว แปะบริเวณที่มีสิวเสี้ยน 3 – 4 ชั้น ทิ้งจนแห้งแล้วลอกออก เป็นวิธีตํารับโบราณที่ได้ผลดีพอควร หากทนกลิ่นคาวของไข่ได้
แว็กซ์ด้วยแว็กซ์สําเร็จรูป แต่ต้องระวัง เพราะหากแว็กซ์มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือออกแรงดึงมากเกินไป อาจทําให้ผิวหน้าถลอก หรืออักเสบ
– การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนได้ผลดี เพราะกําจัดได้ทั้งสิวเสี้ยนแบบหัวขาว และหัวดํา แต่ต้องทําบ่อย และราคาแพง
– ใช้โซเดียมไบคาร์บอเนต (ผงฟู) ใช่แล้วค่ะ ผงฟูที่ใช้ทําขนมนี่แหละ หาซื้อง่าย ราคาถูก แถมดีกว่าสครับทั่วไปตรงที่เนื้อเนียนละเอียดกว่าหลายเท่า แค่ผสมน้ำให้พอข้น ขัดบริเวณที่เป็นสิวเสี้ยนให้ทั่ว 2 – 3 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น ผิวจะนุ้มนุ่ม หากกลัวว่าจะแพ้ ลองสครับที่ท้องแขนดูก่อนก็ได้
ป้องกันดีกว่า
คนผิวมันมีโอกาสเกิดสิวเสี้ยนได้ง่าย เนื่องจากต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ และมีน้ำมันออกมาฉาบผิวมาก จึงเกิด การอุดตันได้ง่าย การลดความมันบนใบหน้า จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวเสี้ยนได้
ใช้เครื่องสําอางที่ช่วยดูดซับความมัน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บํารุงผิวเนื้อเจล หรือโลชั่นดีกว่าเนื้อครีม เพราะบางเบากว่า และไม่อุดตันรูขุมขน
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA เพราะช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดสิวเสี้ยนได้
อบไอน้ำให้ผิว ความร้อนจากไอน้ำช่วยทําความสะอาดผิวหน้า และลดสิ่งสกปรกที่คั่งค้างรูขุมขน
ง่ายๆ เพียงต้มน้ำให้เดือดจัดจนมีไอออกมา แล้วเอาหน้าไปอังที่ปากหม้อ เพื่อรับไอน้ำ ทําสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะรู้สึกว่า ผิวหน้าสะอาดสดชื่นขึ้น
ล้างหน้ามากไปก็ไม่ดี ใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าอ่อน ๆ ล้างเพียงวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ การล้างหน้าบ่อยไป อาจทําให้ผิวแห้งตึง ก่อให้เกิดริ้วรอย นอกจากนี้ การใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้ามากเกินไป อาจทําให้เกิดสารตกค้าง ก่อให้เกิดสิว
Credit : นิตยสารชีวจิต