ตามนโยบายของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และพล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT สั่งการให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน สืบเนื่องจาก “ชุดลาดตระเวนออนไลน์” สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนผู้เดือดร้อน ว่าพบพฤติการณ์ผู้ต้องหาเปิดเฟจหลอกให้สั่งจองพระเครื่องบูชาพระเกจิชื่อดังแล้วเชิดเงินหลบหนีไป อันสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนศรัทธาในศาสนาเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 เวลาประมาณ 21.30 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./ หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ธัญญพันธ์ บุญสม ผกก.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ,พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.กก.สส.2 บช.น.,พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บช.น.,ร.ต.อ.วรเวช ปรุงเรณู รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพีรพงศ์ฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ที่อยู่เลขที่ 50 ซอยสุทธิพงศ์ 1 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.107/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ในคดีอาญาที่ 167/2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบ
คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 50 ซอยสุทธิพงศ์ 1 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
จากพฤติการณ์ของนายพีรพงศ์ฯ จะเป็นผู้จัดสร้างพระเครื่องบูชาสายหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน,หลวงพ่อรวย ปาสาธิโก วัดตะโก และพระเครื่องต่างๆ โดยเปิดให้สั่งจองผ่านเพจเฟชบุ๊คของนายพีรพงศ์ฯ และกลุ่มไลน์พระเครื่องที่นายพีรพงศ์ฯ เป็นแอดมินแต่ในช่วงกลางปี 2565 นายพีรพงศ์ฯ ได้เปิดสั่งจองพระเครื่องหลวงพ่อพัฒน์ จำนวน 100 กล่อง ราคากล่องละ 19,000 บาท และได้ให้คนชื่อ “ส้ม” เป็นผู้รับผลิต แต่นายพีรพงศ์ฯ ไม่สามารถจัดส่งพระเครื่องให้กับผู้สั่งจองได้ครบตามจำนวน จึงถูกผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.กระทุ่มแบน จนถูกออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
จากการสอบถามนายพีรพงศ์ฯ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้เข้ามาสู่วงการให้เช่าและบูชาพระเครื่อง วัตถุมงคลพระเกจิชื่อดังที่ได้รับความนิยมในสื่อสังคมออนไลน์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 เรื่อยมา เป็นระยะเวลา 2-3 ปี จนเป็นที่รู้จักทั่วไปในวงการผู้ชื่นชอบและนิยมบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลเป็นจำนวนมาก ต่อมานายพีรพงศ์ฯได้ใช้ความน่าเชื่อถือดังกล่าวและช่วงเวลาที่ทางวัดเปิดให้สั่งจองพระเครื่องและวัตถุมงคลดังกล่าวเปิดเพจหลอกลวง รับจองพระเครื่องจนมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าจองพระเป็นจำนวนกว่า 80,000 บาท โดยมิได้มีเจตนาส่งสินค้าดังกล่าวให้แก่ผู้สั่งจองแต่อย่างใด จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา และให้การรับสารภาพว่าได้นำเงินดังกล่าวไปใช้จ่ายให้แก่ภรรยาของตนซึ่งตั้งท้องได้ 8 เดือนใกล้ครบกำหนดคลอดภายในเดือนนี้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบประวัติต้องโทษของนายพีรพงศ์ฯ พบว่า เคยก่อเหตุในลักษณะพฤติการณ์คล้ายคลึงกัน ในข้อหา “ฉ้อโกง” ในพื้นที่ สภ.หันคา จ.ชัยนาท เมื่อเดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่ง พงส.สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT ชุดปฏิบัติการ 5 กล่าวว่า ขอเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ใครที่มีพฤติกรรมการฉ้อโกงหรือกลโกงในลักษณะเดียวกันให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลาดตระเวนออนไลน์ในสื่อสังคมออนไลน์และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วไปตลอด 24 ชั่วโมง และฝากเตือนประชาชนทั่วไป ขอให้ตรวจสอบข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์อย่างถี่ถ้วนและแน่ชัดเสียก่อน มิฉะนั้นอาจตกเป็น “เหยื่อ” ของเหล่ามิจฉาชีพได้โดยง่าย สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน