การรถไฟจีนเผยเปิดเส้นทางใหม่ อี้อู-ลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ระยะทางกว่า 7,400 ไมล์ ใช้เวลา 18 วันจากต้นทางถึงปลายทาง ผ่าน 15 เมือง 7 ประเทศ
เว็บไซต์เทเลกราฟรายงานโดยระบุว่าทางการรถไฟของจีนเผยว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางการจีนได้เปิดการเปิดเส้นทางเดินรถไฟจากเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ถึงเมืองบาร์กิง เมืองปริมณฑลของลอนดอนแล้ว โดยจะใช้เวลาเดินทาง 18 วันผ่าน 15 เมืองใน 7 ประเทศได้แก่ คาซัคสถาน รัสเซีย เบลารุส โปแลนด์ เยอรมันนี เบลเยียม และฝรั่งเศส ก่อนจะถึงลอนดอน สหราชอาณาจักรเป็นประเทศที่แปด
เทเลกราฟระบุว่า เส้นทางรถไฟนั้นเป็นยุทธศาสตร์หลักในการพัฒนาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ภายใต้นโยบาย “One belt One Road” (หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง) ที่ถูกประกาศออกมาเมื่อ พ.ศ. 2556 โดยมีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเชื่อมโยงการค้ากับประเทศในเอเชีย แอฟริกา ยุโรป ตามรอยเส้นทางสายไหมแต่ครั้งโบราณ โดยเส้นทางสายไหมยุคใหม่นี้ จะประกอบไปด้วย 39 เส้นทางเพื่อเชื่อมต่อเมืองต่างๆ ของจีนกับ 12 เมืองในยุโรป
นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 เป็นต้นมา มีการขนส่งออกจากจีนไปยังยุโรปแล้ว 1,881 เที่ยว และเดินทางจากยุโรปมาจีน 502 เที่ยวโดยขบวนที่เดินทางกลับมานั้นส่วนใหญ่เป็นการขนส่งผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์จากเยอรมันนี ผลิตภัณฑ์ไม้จากรัสเซีย และไวน์จากฝรั่งเศส
การรถไฟจีนระบุว่า รถไฟสู่ลอนดอนนั้นจะช่วยกระชับการเชื่อมต่อระหว่างจีนกับยุโรปตะวันตกและพัฒนาการค้าระหว่างจีนกับสหราชอาณาจักรให้แน่นแฟ้นขึ้น
เทเลกราฟตั้งข้อสังเกตว่า จีนมีมูลค่าการส่งออก 2.27 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2558 ต่ำกว่าปี 2557 ซึ่งมีมูลค่าส่งออก 2.34 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นตกจากปี 2557 จาก 7.3 เปอร์เซ็นต์ เป็น 6.9 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 และถือเป็นปีที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี ยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” จึงเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามที่จะกระตุ้นการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน