นักโทษในคุกบราซิลห้ำหั่นสยดสยอง ยืดเยื้อ17ชั่วโมง เสียชีวิต 60 -ถูกตัดศีรษะหลายราย ถือโอกาสหลบหนีกว่าร้อย
3 ม.ค. นายเซร์จิโอ ฟอนเตส เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นของรัฐอามาโซนาส ทางเหนือของบราซิล แถลงว่า เหตุจลาจลรุนแรงระหว่างนักโทษสองแก๊ง ในเรือนจำ อานิซีโอ โจบิม ชานเมืองมาเนาส์ เมืองหลวงของรัฐ เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม ยืดเยื้อข้ามคืนยาวนาน 17 ชั่วโมง ก่อนก่อนจบนองเลือด มีผู้เสียชีวิตมากเกือบ 60 ราย กลายเป็นการสังหารหมู่ครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในรัฐ และติดอันดับเหตุจลาจลเรือนจำนองเลือดที่สุดในลาตินอเมริกาในรอบ 10 ปี
ตำรวจควบคุมสถานการณ์ได้ในเช้าวันจันทร์ นักโทษวางอาวุธ และปล่อยผู้คุม 12 คนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
ฟอนเตส กล่าวว่า เหยื่อจำนวนมากถูกตัดศีรษะ และมีร่องรอยทุกข์ทรมานจากถูกกระทำรุนแรง เหตุจลาจลมีจุดเริ่มจากการต่อสู้ระหว่างสองแก๊งที่ชิงกันเป็นใหญ่ในเรือนจำและคุมเส้นทางค้ายาเสพติด โดยแก๊งท้องถิ่นชื่อ”ครอบครัวของทางเหนือ”(เอฟดีเอ็น) กับ “กองบัญชาการเมืองหลวงที่หนึ่ง” (พีซีซี) แก๊งอาชญากรรมใหญ่สุดของบราซิล ซึ่งมีฐานอยู่ในเซาเปาโล และอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้มากถึง 2,700 กิโลเมตร โดยระหว่างเจรจาเพื่อยุติจลาจล นักโทษไม่ยื่นข้อเรียกร้องใดเลย เพราะพวกเขาต้องการทำในสิ่งที่มุ่งหมายอย่างเดียวคือสังหารสมุนแก๊งคู่อริ
ช่างภาพสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานสภาพที่เกิดเหตุว่า ศพที่มีเลือดท่วมและถูกไฟไหม้ กองสุมอยู่ในรถเข็นและลานคอนกรีตในเรือนจำ ด้านนอก ญาติพี่น้องนักโทษมารวมตัวกันรอฟังข่าวอย่างกระวนกระวายใจ เพราะทางการยังไม่ได้เผยรายชื่อผู้เสียชีวิต อีกด้านหนึ่ง ตำรวจเร่งล่าตัวนักโทษที่หลบหนีผ่านทางอุโมงค์ ที่เพิ่งค้นพบว่ามีมากถึง 16 แห่ง โดยจนถึงขณะนี้ตามจับตัวได้แล้ว 40 คนจาก 112 คน
ตัวเลข ณ สิ้นปี 2557 บราซิลจองจำนักโทษ 622,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษชายผิวสี ทำให้บราซิลเป็นประเทศมีประชากรนักโทษมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จีนและรัสเซีย กระทรวงยุติธรรมระบุว่าเรือนจำบราซิลจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่อีกมากกว่า 50% เพื่อรองรับประชากรนักโทษในปัจจุบัน
ขณะที่นักสิทธิมนุษยชนระบุว่าปัญหารุนแรงในเรือนจำเริ่มต้นจากความแออัดยัดเยียด ยิ่งเมื่อนำนักโทษคู่อริไปอยู่รวมกันด้วยแล้ว ทางการไม่มีทางควบคุมความเป็นไปภายในได้เลย