สุดสลด! ปิดฉากรัก 12 ปี ครูสาวกับพ่อค้าปลาเค็ม คาดเมียแทงผัวดับ ก่อนคิดสั้นผูกคอตายตาม พร้อมส่งข้อความเศร้าขอโทษครอบครัว “ขอให้เอาศพใส่โลงเดียวกัน”
เมื่อเวลา 19.00 น. ของวันที่ (2 มีนาคม 2566) ร.ต.อ.คัชรัฐ โสมนัส พนักสอบสอบ สภ.โคกตูม ลพบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่บ้านหลังหนึ่งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.นิวัฒน์ การสิทธ์ ผู้กำกับการ สภ.โคกตูม พร้อมนำกำลังฝ่ายสืบสวน พิสูจน์หลักฐานตำรวจลพบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลอานันทมหิดล กรมแพทย์ทหารบก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร อยู่บนเนื้อที่ประมาณ 2 งาน มีบ้านปลูกอยู่ 2 หลัง หลังเกิดเหตุอยู่ติดรั่วประตูบ้าน เปิดเข้าไปดูที่ห้องโถงพบศพ
นางสาวถอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี สภาพสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลใส่เสื้อยกทรงไม่สวมเสื้อ ใช้สายไฟสีดำแขวนคอตนเอง อยู่หน้าประตูห้องน้ำสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร
ส่วนภายในห้องนอนพบศพนายอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตสภาพนอนหงายอยู่บนพื้นข้างเตียงนอนไม่สวมเสื้อผ้ามีผ้าห่มนวมลายสีน้ำเงินปิดทับอยู่ถึงหน้าอก มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีเป็นบาดแผลใหญ่เข้าที่กลางอก 2 แผล ราวนมซ้าย 1 แผล
ส่วนบนเตียงนอนพบรอยคาบเบาะเปื้อนเลือด พร้อมกับมีดตัดหวายขนาด 16 นิ้ว กับมีดทำครัววางอยู่ 1 เล่มมีรอยคาบเลือดติดอยู่ทั้ง 2 เล่มคาดว่าเป็นอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบของใช้ในบ้านกระจัดกระจ่ายไปทั่วพื้นบ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนทราบว่าผู้ตายทั้งคนเป็นสามีภรรยาแต่งงานอยู่กินกันมา 12 ปีแต่ไม่มีลูก ฝ่ายหญิงทำงานเป็นครูอัตราจ้างสอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ส่วนสามีอาชีพขายปลาเค็ม
สอบถามพ่อของฝ่ายชาย ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกเล่าว่า ปกติลูกสะใภ้จะออกไปทำงานสอนหนังสือที่โรงเรียนทุกวัน แต่ตอนเช้าวันนี้เห็นรถลูกสะใภ้จอดอยู่ที่โรงจอดยังไม่ไปสอนหนังสือ ก่อนที่ตนกับภรรยาจะเดินทางไปซื้อปลาสดมาขายที่จังหวัดอ่างทอง แล้วกลับมาช่วงบ่ายยังเห็นรถยนต์เอนกประสงค์ของลูกสะใภ้จอดนิ่งอยู่ยังไม่ขยับไปไหน บ้านก็ปิดประตูล็อกปิดม่านประตูหน้าต่างมิดชิดมองเข้าไปไม่เห็นใคร จึงโทรศัพท์ไปสอบถามลูกสะใภ้ที่จนได้คำตอบว่า “วันนี้ลางานเพราะนายอานนท์ สามีไม่สบาย”
จนกระทั้งช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. หลังจากขายปลาเสร็จกลับมาจากตลาดมาถึงบ้านอีกครั้ง ปรากฏว่าคราวนี้สังเกตเห็นที่บ้านลูกชายยังคงปิดเงียบผิดปกติ แถมโทรศัพท์เข้าไปหาคราวนี้ก็ไม่มีใครรับสายเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงไปตามพ่อและแม่ของลูกสะใภ้มาช่วยกันเรียกจนต้องตัดสินใจงัดกระจกหน้าต่างบานเลื่อนห้องนอนหลุดออก
จากนั้นตนเป็นคนปีนเข้าไปตรวจสอบดูก็ถึงกับแทบช็อกเห็นลูกชายนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้นห้องนอน พอเดินตาหาตัวลูกสะใภ้ก็พบร่างแขวนคอตายอยู่หน้าห้องน้ำ ทุกคนเห็นสภาพแล้วต่างตกใจว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เพราะทั้ง 2 คน ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรรุ่นแรงแถมยังคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จนมาแต่งงานกันครองรักได้ถึง 12 ปีแล้ว ซึ่งยังคงติดใจว่าอาจจะมีคนนอกแอบเข้ามาทำร้าย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยกันตรวจสอบร่องรอยที่เกิดเหตุพร้อมสอบปากคำญาติก็ไม่พบว่าทั้ง 2 คน มีปัญหาอะไรกัน แต่การเสียชีวิตคาดว่าทั้งคู่ มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งน่าจะเป็นคนลงมือฆ่ากันเอง แต่พุ่งไปที่ฝ่ายหญิงเป็นคนก่อเหตุลงมือใช้มีดแทงสามีจนเสียชีวิตก่อนที่แขวนคอตนเองตนเสียชีวิตขณะเดียวกันทางญาติยังติดใจการเสียชีวิตของสามีคู่นี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.โคกตูม จึงนำโทรศัพท์ของผู้ตายทั้ง 2 คน มาถอดรหัสล็อกเปิดดูปรากฏว่าไปพบข้อความในเครื่องโทรศัพท์มือถือของฝ่ายหญิง ได้พิมพ์ข้อความไว้ในโปรแกรมเมสเซนเจอร์ ข้อความว่า
“ขอโทษทุกคนที่ทำแบบนี้ ปัญหามันมากมายหลายอย่าง สัญญากันไว้ว่าจะตายไปด้วยกัน โดนหลอกแต่คนไม่จริงใจ ผิดพลาดหลายๆ อย่าง ขอโทษแม่ทั้งสองที่ทิ้งปัญหาไว้ให้ ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้ลูกเกิดเป็นคนดีกว่านี้ ไม่สร้างปัญหาให้แม่ทั้งสองฝั่ง ขอให้ลูกได้อยู่วัดเดียวกันเด้อ เอาลูกไปวัดเดียวกันเด้อ ไปโลงเดียวกันด้วย เอาหนูกลับมาบ้านกันเด้อ”
โดยข้อความนี้ยังส่งไปให้เครื่องของสามีอีกด้วย ช่วงเวลา 06.24 น. วันเดียวกันนี้เอง ซึ่งปัญหาฝ่ายหญิงลงข้อความนั้นหลายคนก็ยังไม่รู้ว่าเป็นปัญหาจากเรื่องใด ซึ่งยังเป็นปริศนาอยู่ในขณะนี้
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานนำไปตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมกับมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเคลื่อนย้ายส่งร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชธรรมศาสตร์ รังสิต ก่อนที่มอบศพให้กับทางญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ