ทาดาชิ อิชิอิ ประธานบริษัทเดนท์สุ บริษัทเอเจนซี่ขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ออกมาแสดงความเสียใจต่อกรณีที่บริษัทไม่สามารถดูแลสวัสดิภาพของพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานใหม่ที่ต้องทำงานล่วงเวลานาน หลังมีพนักงานสาวฆ่าตัวตายดวยสาเหตุนี้ ทำให้เขาตัดสินใจขอลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัท และสมาชิกของคณะกรรมการบริหาร เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปี 2017
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2016 หลัง มัตสึริ ทาคาฮาชิ นักศึกษาสาว จากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่เพิ่งจบการศึกษา ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวัย 24 ปี ด้วยการกระโดดตึก เนื่องจากเกิดภาวะกดดัน ทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้า ที่ต้องทำงานล่วงเวลามากถึง 105 ชั่วโมง เฉพาะในเดือนตุลาคม เพียงเดือนเดียว ก่อนที่กระทรวงแรงงานจะเข้ามาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น และบริษัทเดนท์สุถูกดำเนินคดี ข้อหาละเมิดกฎหมายมาตรฐานแรงงาน ส่งผลให้ อิชิอิ ต้องแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะของผู้บริหารสูงสุดของ เดนท์สุ ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่ง
ทั้งนี้ การลาออกของ อิชิอิ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี ผลักดันให้มีการปฏิรูปงานแรงงาน การแก้ไขกฎหมายการว่าจ้าง ที่ครอบคลุมมาตรการตรวจสอบหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในส่วนที่ให้พนักงานทำงานล่วงเวลา ซึ่งปัจจุบันมี 1 ใน 5 บริษัทเอกชนของประเทศญี่ปุ่น มีพนักงานที่ต้องทำงานล่วงเวลามากกว่า 80 ชั่วโมงต่อเดือน เกินกว่ามาตรฐานที่รัฐบาลได้กำหนดไว้
คลิปประกอบ : ANNnewsCH
https://www.youtube.com/watch?v=0188mmZwhf0