วันที่ 20 ก.พ.66 ที่สำนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา : น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ อายุ 55 ปีนักธุรกิจสาว เจ้าของบริษัทรับผลิตจำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่ เดินทางมาเพื่อติดตามคดี ที่ได้แจ้งความ เอาผิด อดีตลูกจ้างรายหนึ่ง ในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง และ ปลอมเอกสาร ซึ่งปัจจุบัน คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของพนักงานอัยการ และวันนี้ อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง อดีตลูกจ้างรายนี้ รวม 2 ข้อหา คือ ลักทรัพย์นายจ้าง และ ปลอมเอกสาร ก่อนนำตัวไปส่งฟ้องต่อ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา
น.ส.ช่อฉัตรฯ เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 อดีตลูกจ้างรายนี้ เคยทำงานให้กับบริษัท ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการการขายน้ำยางพาราผสมสารผสมเพิ่ม ด้วยความที่ไว้ใจมากจึงให้เป็นกรรมการบริษัท จากนั้นอดีตลูกจ้างรายนี้ ได้ลักลอบ ถอนเงินของบริษัทออกจากบัญชีและได้ปลอมหนังสือของบริษัทเพื่อดำเนินการปิดบัญชีออมทรัพย์และบัญชีกระแสรายวัน กับธนาคารกรุงไทย เพื่อนำเงินไปใช้ส่วนตัว ทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
ซึ่งคดีนี้ นับเป็นคดีที่ 2 ที่ตนเองได้ดำเนินคดี กับ อดีตลูกจ้างรายนี้ เพราะก่อนหน้านี้ พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างไปแล้วโดยทางบริษัทได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมเพื่อเรียกร้องเงินในส่วนคดีแพ่งเป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท และ ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นัดสืบพยาน โจทก์-จำเลย กลางปี 2566
น.ส.ช่อฉัตรฯ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา ให้ความไว้ใจ และเชื่อใจอดีตลูกจ้างรายนี้ มาก ให้ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับการขายน้ำยางพารา ต่อมามีหลักฐานว่าอดีตลูกจ้างรายนี้ได้แอบลักลอบเบิกเงินออกจากบริษัทเพื่อนำไปเปิดบริษัทใหม่ โดยมีชื่อคล้ายกับบริษัทเดิม เพื่อให้ลูกค้าหลงผิด และได้แอบนำสูตรและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต คือน้ำยางข้นและสารเคมี ส่งไปทดสอบกับทางราชการ จนกระทั่งได้ใบรับรอง แล้วนำไปจำหน่ายแข่งกับบริษัทเดิมพร้อมกันนี้ ยังมีการปลอมเอกสารของบริษัท เพื่อเบิกเงินไปใช้ส่วนตัว เมื่อพยานหลักฐานมีครบจึงตัดสินใจฟ้องร้องดำเนินคดีกับอดีตลูกจ้างรายนี้และยืนยันจะเดินหน้าเอาเรื่องจนถึงที่สุด
ขณะที่จำเลย ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ เพื่อขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ประกันในวงเงินประกัน 50,000 บาท
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ทางด้านคู่กรณี ที่ถูก น.ส.ช่อฉัตรฯ แจ้งความดำเนินคดี ได้ส่งจดหมายแจ้งหมายต่อสื่อมวลชน เพื่อเตรียมที่ชี้แจงข้อมูล หลังจากปรากฏเป็นข่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยในวันพุธที่ 22 ก.พ. นี้ คู่กรณีรายดังกล่าว จะเดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดีที่ได้แจ้งความไว้ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เกี่ยวกับเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และเตรียมชี้ข้อเท็จจริงอีกด้าน ต่อสื่อมวลชน ให้ได้รับทราบ ด้วย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน