ตามนโยบายของรัฐบาลในด้านการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจังตามแผนปฏิบัติการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาตอนในของประเทศให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต. พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.วรพงค์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ,พ.ต.อ.พิทักษ์ นาสมวาส รอง ผบก.สส.ภ.5 ,พ.ต.อ.สงกรานต์ สันติวงค์ ผกก.สภ.แม่ฟ้าหลวง ,พ.ต.อ.พัสกร ธวัชเชียงกุล ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย ,นายอนุเทพ ธาระณะ ผอ.ส่วนตรวจสอบทรัพย์สิน ปปส.ภ.5,พ.อ.ยอดชาย พวงวรินทร์ รอง เสธ ศอ.ปส.ชน. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี จับกุมผู้กระทำความผิดตามหมายจับ 1 คน ตรวจยึด ยาบ้า 4.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 133 กิโลกรัม ขยายผลตรวจยึดรถยนต์ของกลางรวม 4 คัน ซึ่งเป็นผลการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย
เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบเส้นทางตามแนวชายแดน และตั้งจุดสกัดยาเสพติดบริเวณที่เกิดเหตุ ได้พบรถยนต์กระบะ ขับมาจากบ้านห้วยปู ม.๑๑ ต.แม่ฟ้าหลงวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เข้ามายังบริเวณจุดสกัด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถคันดังกล่าวได้ขับถอยหลังหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถยนต์ ไล่ติดตาม ไปพบรถคันดังได้ตกลงอยู่ข้างทาง ลักษณะประตู ด้านคนขับเปิดและดับเครื่องยนต์ไว้ แต่กุญแจรถเสียบคาอยู่ ไม่พบผู้ใด จึงได้เข้าตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบกระสอบฟางอยู่ในที่นั่งตอนในกับกระบะท้ายเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า เป็นยาบ้าบรรจุอยู่ในกระสอบฟางจำนวน ๒๓ กระสอบ ประมาณ 4.6 ล้านเม็ด และพบยาไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงชาสีเขียว อีกจำนวน ๑๓๓ ถุง ประมาณ ๑๓๓ กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ชุดตำรวจจึงได้ตรวจยึดและนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน
ต่อมาสามารถขยายผลออกหมายจับและทำการจับกุมตัว นายสิทธิชัย (สงวนนามสกุล) อายุ ๓๑ ปี ซึ่งเป็นชาว อ.แม่จัน จว.เชียงราย ได้
ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต อันอาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน”
ในชั้นจับกุมนายสิทธิชัยฯ ผู้ต้องหาได้ให้การรับว่าเป็นผู้ซื้อรถคันกล่าวจริง แต่ปฏิเสธว่าขณะเกิดเหตุไม่รู้ว่าผู้ใดขับรถขนยาเสพติดของกลาง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลสามารถตรวจยึดทรัพย์สินจาก นายสิทธิชัยฯ ผู้ต้องหาได้รถยนต์เพิ่มอีกจำนวน 3 คัน
ขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องที่เหลือต่อไป
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้ ยาบ้าจะมีการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศเพื่อกระจายให้กับกลุ่มผู้เสพภายในประเทศ ส่วนยาไอซ์ประมาณ 70-80 % จะถูกส่งออกยังประเทศที่สามปลายทางแถบทวีปอเมริกาใต้,ทวีปออสเตรเลีย ตำรวจภูธรภาค 5 ยังคงให้ความสำคัญในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงการนำเข้าตามแนวชายแดน และพื้นที่ใกล้เคียงกับแนวชายแดน ทั้งนี้ ยังดำเนินการตามนโยบายค้นหาผู้เสพ ผู้ใช้ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด
สรุปผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5
ห้วงตั้งแต่ 1 ต.ค.65- 10 ก.พ.66
จับกุมคดียาเสพติด จำนวน 2,589 คดี เป็นรายสำคัญ 52 คดี ผู้กระทำความผิด 1,141 คน
ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 42,289,549 เม็ด ไอซ์ 1,174 กก. เคตามีน 401 กก.
ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 355 ล้านบาท