สถานีโทรทัศน์ เอ็มเอสเอ็นบีซี รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวนอกรอบของการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการข่าวของทางสถานีว่า ไม่หวาดกลัวกับการแข่งขันด้านการผลิตและสะสมอาวุธ พร้อมทั้งแสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะอยู่ในสถานะได้เปรียบกว่าทุกประเทศ ที่ต้องการแข่งขันด้านแสนยานุภาพในเรื่องนี้กับอเมริกา
แม้แถลงดังกล่าวไม่ได้รับการออกอากาศโดยตรง แต่เพิ่มความวิตกกลังวลให้แก่หลายฝ่ายเกี่ยวกับทิศทางด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในอนาคต โดยเฉพาะกับรัสเซีย เนื่องจากทรัมป์ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ @realDonaldTrump เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เรียกร้องให้สหรัฐขยายขอบเขตของแสนยานุภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ ประจวบเหมาะกับที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย กล่าวในการประชุมใหญ่สรุปผลงานประจำปีของกระทรวงกลาโหมในกรุงมอสโกว่า การเพิ่มขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ถือเป็นหัวใจของนโยบายยุทธศาสตร์ทางทหารประจำปี 2560
ด้านนายฌอน สไปเซอร์ ว่าที่โฆษกทำเนียบขาวคนใหม่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อใหญ่หลายแห่งของสหรัฐฯ ชี้แจงและขยายความคำกล่าวของทรัมป์ ว่าหมายถึงการที่รัฐบาลวอชิงตันในอนาคตจะไม่เพิกเฉย ต่อการเพิ่มขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของประเทศใดก็ตาม บนโลกยุคปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่มีนโยบายอย่างชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งรวมถึงจีน และรัสเซีย แน่นอนว่าหากความเคลื่อนไหวด้านนิวเคลียร์ของประเทศใดมีแนวโน้มคุกคามอธิปไตยของสหรัฐ รัฐบาลก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้
อย่างไรก็ตาม ปูติน กล่าวในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว และตอบข้อซักถามครั้งใหญ่ประจำปีกับสื่อมวลชนจากทั่วโลกที่ประจำอยู่ในรัสเซีย ว่ามุมมองและทรรศนะของทรัมป์เรื่องนิวเคลียร์ “ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย” แต่รัสเซียไม่ต้องการแข่งขันกับใครในเรื่องนี้ ขณะที่ต่อมาทีมงานด้านการเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์เผยสำเนาจดหมายจากผู้นำรัสเซียถึงทรัมป์ มีสาระสำคัญแสดงความหวังเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์และยกระดับความร่วมมือ ซึ่งนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ยืนยันว่าเป็นจดหมายจากรัฐบาลมอสโกจริง
ขอบคุณคลิปประกอบ : CNN