รัฐบาลยูเครนเตรียมจัดการเจรจาเพื่อออกมาตรการหยุดยิงกับกลุ่มกบฏ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ขณะที่ความรุนแรงในภาคตะวันออกปะทุขึ้นอีกครั้งหลังไม่มีการต่ออายุมาตรการหยุดยิงเมื่อวันจันทร์…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ว่า รัฐมนตรีต่างประเทศแห่งรัสเซียและยูเครนเห็นชอบร่วมกัน
ที่การประชุมในกรุงเบอร์ลิน ว่าการเจรจาเพื่อกำหนดมาตรการหยุดยิงครั้งใหม่ ควรเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่กองทัพรัฐบาลยูเครนกำลังปะทะกันอย่างดุเดือดกับกลุ่มติดอาวุธฝักฝ่ายรัสเซียในภาคตะวันออก
ของประเทศ
ในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุม 4 ฝ่ายระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน, รัสเซีย, เยอรมนี
และฝรั่งเศส ทีกรุงเบอร์ลิน ระบุว่า การเจรจาหยุดยิงจะเริ่มขึ้นในวันเสารที่ 5 ก.ค. โดยมีผู้แทน
จากรัฐบาลยูเครน, รัสเซีย ฝ่ายกบฏและตัวแทนจากองค์การสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือ
ในยุโรป (ไอเอสซีอี) เข้าร่วม โดยมีเป้าหมายคือ การบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่ยั่งยืนและปราศจากเงื่อนไข
นาย แฟรงก์-วอลเตอร์ ชไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งเยอรมนี เตือนด้วยว่า
หากการเจรจาหยุดยิงไม่เกิดขึ้น ยูเครนอาจต้องเผชิญกับการปะทุของเหตุความรุนแรง
ด้านสถานการณ์ความไม่สงบในภาคตะวันออกของยูเครน เกิดการปะทะกันระหว่างกองทัพรัฐบาล
และนักรบฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนนับร้อยครั้ง ตั้งแต่การหยุดยิงฝ่ายเดียวของรัฐบาลสิ้นสุดลง
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย ทำให้กองทัพต้องประกาศใช้ปฏิบัติ
การต่อต้านกลุ่มกบฏครั้งใหญ่ ในภาคตะวันตะวันออก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า การต่อสู้ที่หมู่บ้านลูฮานสกา ในจังหวัดลูฮานสก์ ทำให้มีพลเรือน
เสียชีวิตถึง 10 ราย ซึ่งฝ่ายกองทัพและกบฏต่างออกมากล่าวโทษอีกฝ่าย ว่าเป็นต้นเหตุที่
ทำให้พลเรือนกลุ่มนี้เสียชีวิต