ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเป็นอย่างมาก ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยเร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
วันที่ 30 มกราคม 2566 เวลา 10.00 น. ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ5, พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร รอง ผบช.ภ.5,พล.ต.ต.วรพงษ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พตอ.อัครินทร์ กาสา รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง,พตอ.นพดล ใบเรือ ผกก.สภ.แม่พริก,นายธันวา ผุดผ่อง ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค5 ,พ.อ.นพดล คามเกตุ รอง หน.ส่วนปฏิบัติการ ศอ.ปส.ชน. ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี เป็นการจับกุมของ ด่านตรวจยาเสพติดแม่พริก จังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 03.30 น. โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 1 คน ตรวจยึดยาไอซ์ได้จำนวน 177 กิโลกรัม และรถยนต์จำนวน 1 คัน
การจับกุมในคดีนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจยาเสพติดแม่พริกได้ทำการเฝ้าติดตามรถยนต์จากโปรแกรมอ่านป้ายทะเบียนอัตโนมัติ และพบว่ามีรถตู้ต้องสงสัยขับผ่านด่านตรวจในลักษณะหลบเลี่ยงด่านในเส้นทางและขับผ่านพื้นที่ตามแนวชายแดน จึงได้ เฝ้าติดตามรถตู้คันดังกล่าว และกำหนดตั้งเป็นเป้าหมายการเรียกตรวจค้น
ต่อมาในวันเกิดเหตุ ขณะที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด บริเวณถนนหน้า อบต.แม่พริก ซึ่งเป็นถนนเส้นทางสายรองเพื่อตรวจรถต้องสงสัยที่มักหลบเลี่ยงถนนสายหลักมาใช้ถนนสายรองในการลำเลียงสิ่งของ ผิดกฎหมาย จนกระทั่งเวลา 03.30 น. ได้มีรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮอ 19** กทม. ซึ่งตรงกับรถเป้าหมายที่เฝ้าระวัง จึงได้เรียกตรวจ ทราบชื่อผู้ขับขี่ว่านายสมชาย (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี เป็นชาวกำแพงเพชร และจากการตรวจค้นพบกระสอบปุ๋ยจำนวนหลายใบวางอยู่ภายในรถตู้ระหว่างช่องว่างที่นั่งผู้โดยสาร จึงได้ตรวจสอบสิ่งของที่อยู่ภายในกระสอบปุ๋ย
พบว่า เป็นยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงห่อใบชา ห่อละ 1 กก. จำนวน 177 ห่อ
จึงได้ทำการจับกุมตัวนายสมชายฯ พร้อมของกลางนำส่ง พงส. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการขยายผลทราบว่ายาไอซ์ของกลาง มีต้นทางมาจาก
อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ปลายทางส่งให้กับผู้รับในพื้นที่ จ.อ่างทอง
โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการกับผู้ว่าจ้าง ซึ่งคาดว่าจะออกหมายจับได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าในการจับกุมครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และให้เบาะแสถึงตัวผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นผู้จัดหา และเคยทำงานร่วมกัน ส่วนการกระทำผิดครั้งนี่ไม่ใช่ครั้งแรก และเป็นวงรอบของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ที่ในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผู้ค้ายาเสพติดพยายามนำยาเสพติดเข้ามาโดยใช้ประเทศไทย เป็นช่องทางผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางด้านภาคใต้ เพื่อส่งไปยังประเทศที่3 และไปยังประเทศอื่นๆ แถบอเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ ประเทศใต้หวัน มาเลเซีย ออสเตรเรีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งตรงนี้จะไปแพร่ระบาดในประเทศอื่นๆ มากกว่า มูลค่าในประเทศไทย ประมาณ 400ล้านบาท แต่ถ้าในต่างประเทศจะมีมูลค่าสูงถึงกว่า 2-3เท่า ขึ้นอยู่กับว่าจะอยู่ในประเทศใด ส่วนคนขับนั้นเคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเคยถูกดำเนินคดีและถูกจับกุมครั้งหนึ่งแล้ว แต่ถึงแม้จะเป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อกระทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมายทุกราย
สรุปผลการจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรภาค 5 ห้วงตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 – 27 ม.ค.66
จับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ 47 คดี
ตรวจยึดของกลางยาเสพติด
- ยาบ้า 29,219,354 เม็ด
- ไอซ์ 1,041 กิโลกรัม
- เคตามีน 401 กิโลกรัม
ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าประมาณ 310 ล้านบาท
ตำรวจภูธรภาค 5 ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องบุคคลหรือยานพาหนะที่มีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ภายในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสถานีตำรวจทั้ง 159 สถานีในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5 สายด่วน 191 , line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ตำรวจภูธรภาค 5 ยึดมั่นหน้าที่ปราบภัยเพื่อประชาชน