สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) พร้อมด้วย คณะผู้ทรงคุณวุฒิ (วช.) และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลสำเร็จจากกลไก (ววน.) ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตกรรมท้องถิ่นในพื้นที่การดำเนินงาน “โครงการการยกระดับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมชุมชนในภาคเหนือตอนบนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรมและทรัพยากรท้องถิ่นสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในยุควิถีชีวิตใหม่ : KOYORI Project” โดยมี ดร.สุรพล ใจวงศ์ษา แห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เป็นหัวหน้าโครงการฯ ระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ณ สินค้าหัตถกรรมของกลุ่มเก๊ากล้วยล้านนา ต.ประตูป่า จ.ลำพูน,ศูนย์บริการคนพิการออทิสติกจังหวัดเชียงใหม่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ และกลุ่มทอผ้าไทลื้อ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า (วช.) ได้ให้ความสำคัญต่อการวิจัยและนวัตกรรมโดยยกระดับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมชุมชนในภาคเหนือด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรมสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก : KOYORI Project สามารถผลักดันการนำเทคนิคและกระบวนการพัฒนาทักษะ เสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการหัตถกรรมพื้นเมืองรวมทั้งการใช้กระบวนการเฉพาะในการพัฒนาและเพิ่มทักษะเฉพาะกลุ่มดึงศักยภาพของผู้พิการออทิสติก ให้สามารถมีทักษะและพัฒนาการที่ดี เพื่อให้สามารถมีอาชีพของตนเอง นอกจากนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นเมืองและวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ได้รับการส่งเสริมและสร้างกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารกิจการของกลุ่มหัตถกรรมพื้นเมือง เพื่อยกระดับมูลค่าของผลิตภัณฑ์หัตถกรรม พร้อมกับสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเข้ากับเทรนด์ของโลกในอนาคต
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ประสบผลสำเร็จจากกระบวนการยกระดับการสร้างสรรค์ ที่ (วช.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานภายใต้โครงการ KOYORI Project ในครั้งนี้ ได้มีเป้าหมายในการติดตามพัฒนาการและการเพิ่มทักษะทางฝีมือ ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Aujaa’ Craft จากศูนย์บริการคนพิการออทิสติกจังหวัดเชียงใหม่ สามารถส่งเสริมให้สมาชิกที่เป็นผู้พิการออทิสติกและผู้ปกครองสร้างรายได้จากทักษะการย้อมสีจากเส้นฝ้ายเพื่อใช้ในงานถัก ภายใต้แนวคิด “ความงามในความไม่สมบูรณ์”
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ขะแจ๋หลงตู้ จากกลุ่มทอผ้าไทลื้อ บ้านธิลำพูน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไทลื้อ ซึ่งลายขะแจ๋หลงตู้ ได้รับการยอมรับจากกระทรวงวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชุมชนขะแจ๋ กลไกของโครงการ KOYORI Project ได้นำเสน่ห์ของการสวมใส่ชุดของชาวไทลื้อ มาเป็นวิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ ด้วยขั้นตอนที่เป็นพื้นฐานดั้งเดิมที่เรียบง่ายมีเสน่ห์ ในการเก็บ การห่อ การใส่ของใช้ต่างๆ ลงในผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นบรรจุภัณฑ์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เสร็จสมบูรณ์ได้จากการนำสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของชุมชนมาใช้ โดยผลงานชุดนี้จะนำลวดลาย “ขะแจหลงตู้” ซึ่งได้รับการยอมรับจากกระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของชุมชนเป็นลายหลักที่ใช้ในทุกชิ้นงาน
(วช.) มุ่งสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ในการพัฒนาทักษะและยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อนำอัตลักษณ์และภูมิปัญญา เข้าสู่กระบวนการสร้างสรรค์ที่เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับจากภายในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเพิ่มการสร้างและพัฒนาผู้นำที่เป็นครูช่างของท้องถิ่น ให้เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความยั่งยืน ด้วยรูปแบบเฉพาะที่พัฒนาจากงานวิจัยและนวัตกรรมภายใต้ KOYORI Project โดยการดำเนินงานของ มทร.ล้านนา เชียงใหม่
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน