เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 เวลา 13.30 น.ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล จ.ส.อ.นิกร บุญชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ นำตัวแทนเกษตรกรยื่นหนังสือติดตามเงินเยียวยาเงินเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ไร่ละ 2,000 บาท ถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 มีมติให้มีการเยียวยาเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในอัตราไร่ละ 2,000 บาท ต่อรายไม่เกิน 25 ไร่ กรอบวงเงิน 3,821 ล้านบาท ซึ่งทางเครือข่ายเกษตรกรได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าเรื่องโครงการเยียวยาดังกล่าวยังไม่มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ซึ่งเวลาได้เนิ่นนาน และเหลือเวลาที่รัฐบาลจะครบวาระอีกไม่กี่เดิม เครือข่ายข่ายเกษตรกรลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ เกรงว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา อีกทั้งขณะนี้ชาวสวนลำไยประสบภาวะ ขาดทุนต่อเนื่อง จึงขอให้นายกรัฐมนตรี รับทราบความเดือดร้อนของเกษตรกร และนำเรื่องดังกล่าวเข้าครม.เร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนชาวเกษตรกร
โดยนายพีระพันธุ์ฯ กล่าวว่า ในข้อเท็จจริงเงินเยียวยาในส่วนนี้เกษตรกรจะต้องได้รับ แต่เวลาผ่านมาเนิ่นนานก็ยังไม่ได้รับ ซึ่งเมื่อตอนที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เกษตรกรกลุ่มนี้ก็ไปยื่นเรื่องถึงนายกฯ ซึ่งนายกฯมอบหมายให้ตนกลับมาติดตามเรื่อง และเดี๋ยวจะชี้แจงว่าขั้นตอนต่างๆเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบสาเหตุที่จ่ายเงินเยียวยาล่าช้าเพราะติดที่ระเบียบราชการที่ต้องผ่านหลายกระทรวง เพราะเป็นเงินจำนวนมาก และนายกฯก็สั่งการให้เร่งรัดแล้ว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าตอนนี้ปัญหาร้องเรียนของประชาชนมีเยอะมาก แต่ตนก็ไม่หนักใจ
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน