ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนจับกุม นายกิจติชัย หรือนัท เข็มทอง บุคคลมีพฤติการณ์สร้างเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์หลอกขายสินค้าจำพวกอะไหล่รถยนต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมากเช่นเดียวกับ “นายนิว สามโคก” พี่ชาย (ถูกบก.สส.บช.น.จับกุมเมื่อเดือนมกราคม 2566) โดยจากการตรวจสอบประวัติคดีของนายนัท เข็มทอง ในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ พบว่านายกิจติชัยฯ เป็นบุคคลที่หากปล่อยให้อยู่ในสังคมต่อไปเชื่อว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชนเนื่องจาก นายนัท เข็มทอง เคยถูกจับกุมในคดีความผิดเกี่ยวกับฉ้อโกงประชาชน ท้องที่ สภ.ศรีเทพ ภ.จ.เพชรบูรณ์ แต่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาลและติดกำไล EM แต่ตัวนายกิจติชัยฯ ได้ทำการตัดสายกำไล EM เพื่อหลบหนีช่วงประกันตัว โดยย้ายที่อยู่และยังไม่เลิกพฤติกรรมกลับไปก่อเหตุสร้างเฟซบุ๊กเข้าไปหลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์กระทำความผิดซ้ำซาก ไม่เข็ดหลาบ ถือเป็นภัยบนโลกออนไลน์ต่อสังคมและประชาชนรายสำคัญ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2565 เวลาประมาณ 16.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี,พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น.,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น,พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.
ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกิจติชัย หรือนัท สามโคก เข็มทอง อายุ 27 ปี ที่อยู่เลขที่ 46/175 หมู่ 4 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลพบุรี ที่ 52/2565 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2565 โดยกล่าวหาว่า “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมหรือไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน,ฉ้อโกง และเป็นการฉ้อโกงประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณหน้าหอพักแม็กซ์อพารต์เมนต์ เลขที่ 213/3 ซอยสุขี 1/13 ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเคยทำงานเป็นพนักงานขายอะไหล่รถยนต์ของร้านจำหน่ายอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่งภายในตลาดพูนทรัพย์ย่านปทุมธานี ซึ่งทางร้านมีการโพสต์จำหน่ายสินค้าให้แก่ลูกค้าผ่านทางออนไลน์ ตนจึงเรียนรู้วิธีการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 ตนเองเริ่มติดเล่นเสียพนันออนไลน์ จึงคิดที่จะหาเงินทางลัด จึงเริ่มสร้างเฟซบุ๊กเข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถยนต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ จนกระทั่งกลุ่มผู้เสียหายได้มีการตั้งไลน์กลุ่มขึ้นมา เพื่อตามล่าตัวผู้ต้องหา ซึ่งในครั้งนั้นพบว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากถึง 49 คน และมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ตามท้องที่ต่างๆ ทั้งในเขตนครบาล และต่างจังหวัดเกือบทุกภาค จนกระทั่งต่อมาช่วงเดือนมิถุนายน 2563 จึงถูกจับกุมในท้องที่ สภ.สามโคก นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีเทพ ภ.จ.เพชรบูรณ์ และได้รับการประกันตัวในชั้นศาล โดยศาลให้ติดกำไล EM ขณะประกันตัว แต่เนื่องจากตัวนายกิจติชัยฯ กลัวการติดคุก และมั่นใจว่าจะสามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จึงได้ตัดสายกำไล EM เพื่อหลบหนี รวมทั้งย้ายที่อยู่ และกลับไปก่อเหตุโพสต์เฟซบุ๊กหลอกขายอะไหล่รถยนต์มือสองในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ อาทิเช่น กลุ่ม “ซื้อขายรถ อะไหล่รถ Benz W212 W207 W218”,กลุ่ม “CRV-G5 Thailand Helpclub”,กลุ่ม “Accord G8 (ซื้อ-ขาย)”,กลุ่ม “Mercedes-Benz W204 Devil gang”,กลุ่ม “All new Alphard&Vellfire”,กลุ่ม “ซื้อขายอะไหล่และของแต่ง TOYOTA ANH20 เท่านั้น”,กลุ่ม “ซื้อ-ขาย อะไหล่ Alpharrd Vellfire Estima ทุกรุ่น มือสองญี่ปุ่น”,กลุ่ม “BMW F10&Series (Thailand)”,กลุ่ม “ครอบครัว Mercedes benz W205 Club Thailand”,กลุ่ม “เร็คหลังคารถ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน และพูดคุย เร็คหลังคามือ1 และมือ2” และกลุ่มอื่นๆ อีกกว่า 50 กลุ่ม อย่างต่อเนื่องอีกเช่นเคย
ผู้ต้องหารับว่า ณ ปัจจุบันใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการก่อเหตุ จำนวน 3 บัญชี คือ (1) ชื่อบัญชี “อารีฤทธิ์ ฤทธิ์วิวัฒนาคุณ”,(2) ชื่อบัญชี “พรเทพ แซ่ลิ้ม” และ (3) ชื่อบัญชี “Tammasaksit Sitti Arnugun”
โดยรับว่าใช้บัญชีธนาคารสำหรับรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหายประกอบด้วย 1) QR code พร้อมเพย์ จากแอปพลิเคชั่นเป๋าตังเพย์ หมายเลข 006 66000039 4976 ชื่อบัญชี กิจติชัย เข็มทอง ผูกกับเบอร์โทรศัพท์หมายเลข 0809068044,2) บัญชีธนาคารเกียรตินาคินภัทร เลขที่ 2008153926 ชื่อบัญชี ณัฐพงศ์ ทิพย์เจริญ,3) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 1361228770 ชื่อบัญชี จารุเดช เดชป้อง และ 4) บัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 1181420827 ชื่อบัญชี จารุเดช เดชป้อง
จากการก่อเหตุตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน ผู้ต้องหารับว่าได้เงินจากการก่อเหตุมากกว่า 2,500,000 (สองล้านห้าแสนบาท) เงินที่ได้ส่วนใหญ่นำไปใช่เล่นพนันออนไลน์ เที่ยวเตร่ ตลอดจนเช่าที่พักเพื่อหลบหนีจากการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เมื่อตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีรวมทั้งหมด ทั้งที่เคยถูกจับกุมได้ และยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี รวม 8 คดี ประกอบด้วย
-คดีที่ 1 ปี 2562 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ท้องที่ สภ.สามโคก สถานะแจ้งข้อกล่าวหา/ไม่ควบคุมตัว
-คดีที่ 2 ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 3 ปี 2563 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาฉ้อโกง,ตัวการในข้อหา นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมฯ” ท้องที่ สภ.สามโคก สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 4 ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 5 ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนฯ” ท้องที่ สภ.เหล่าต่างคำ ภ.จ.หนองคาย สถานะหลบหนี
-คดีที่ 6 ปี 2564 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาฉ้อโกงประชาชน,ตัวการในข้อหาผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอมฯ” ท้องที่ สภ.ศรีเทพ ภ.จ.เพชรบูรณ์ สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 7 ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนฯ” ท้องที่ สภ.เมืองลพบุรี สถานะหลบหนี
-คดีที่ 8 ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,ผู้ใดกระทำความผิดโดยการ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนฯ” ท้องที่ สภ.เมืองพิษณุโลก สถานะหลบหนี
ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำหนังสือประสานเพื่อให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแต่ละคดีทำการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อย จึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมือง จังหวัดลพบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง หรือสินค้าที่มีราคาถูกเกินกว่าราคาและคุณภาพที่ควรจะเป็น เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภเห็นแก่ผลกำไรมาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน