กลุ่มเกษตรกรแปลใหญ่ ผู้ปลูก “หัวไชเท้า” ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี รวมกว่า 10 หมู่บ้าน ใช้เวลาว่างจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชไร่ และว่างเว้นจากการทำไร่ข้าวโพด มาปลูก “หัวไชเท้า” หรือ หัวผักกาด ซึ่งเป็นพืชระยะสั้น ใช้ระยะเวลาการเพาะปลูก เพียง 45-50 วัน ก็สามารถจะเก็บผลผลิตสู่ตลาดสร้างรายได้ ซึ่งเกษตรกรจะเลือกวางแผนในการเพาะปลูก เพื่อให้ผลผลิต ออกทันจำหน่ายก่อนถึงเทศกาลตรุษจีน ในแต่ละปี ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ ผลผลิตจะถูกส่งไปยัง ตลาด 4 มุมเมือง และ ตลาดไทย เนื่องจากพื้นที่ตำบลโคกตูมถือเป็นแหล่งเพาะปลูกหัวไชเท้าแหล่งใหญ่ ในลำดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้ทุกแปลงปลูกต้องเพิ่มคนงาน เร่งเก็บผลผลิตส่งสู่ตลาด ส่งผลให้เกิดการจ้างงานสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากขณะนี้ หัวไชเท้ากำลังเป็นที่ต้องการของตลาด โดยแต่ละวันจะมีหัวไชเท้าออกสู่ตลาด เฉลี่ย วันละ 80 – 100 ตันต่อวัน ซึ่งต่างจากช่วงเวลาปกติ ที่ไม่ตรงกับเทศกาลตรุษจีน ซึ่งจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด เพียงวันละ 30 ตันต่อวัน
นายมานัส สุขเจริญ ซึ่งเป็น 1 ในเกษตรกรผู้ปลูกหัวไชเท้า ในพื้นที่ หมู่ 7 ตำบลโคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี บอกว่า เกษตรกรผู้ปลูกหัวไชเท้า ของจังหวัดลพบุรี ส่วนใหญ่ หลังจากที่เกษตรกร เก็บเกี่ยวผลผลิต ข้าวโพด ไปแล้ว หรือว่างเว้นจากการทำนา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว เกษตรกรส่วนใหญ่ก็จะหันมาปลูกหัวไชเท้า เพื่อไม่ให้พื้นที่ว่างเปล่า ถือเป็นการสร้างรายได้หลักอีกทางหนึ่งได้เป็นอย่างดี เนื่องจากผลผลิตของหัวไชเท้าที่ได้ในแต่ละปี ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นให้ผลผลผลิตออกสู่ตลาดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากมีราคาดี และเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ชาวบ้านที่ไม่มีพื้นที่เพาะปลูกเป็นของตนเอง ก็จะมารับจ้างถอนหัวไชเท้าแล้วนำมาล้าง ตลอดจนถึงขั้นตอนการแพ็คนำส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะมีรายได้จากการถูกจ้าง เป็นชั่วโมงละ 35 บาท เฉลี่ยต่อวัน โดยประมาณ 300 – 400 บาทต่อคน
สำหรับขั้นตอนการคัดหัวไชเท้ามีหัวที่ใหญ่และสวยจะถูกแพ็ค บรรจุในถุง ถุงละ 10 กิโลกรัม โดยมีราคาเฉลี่ย 100 – 200 บาท ต่อถุงแล้วแต่ช่วงเวลา โดยเฉพาะช่วงเทศกาลก็จะมีราคาดีขึ้นมาก แต่ถ้าหัวไชเท้าที่มีขนาดเล็กไม่สวยจะนำส่งเข้าโรงงานแปรรูป เป็นกุยช่ายดอง โดยราคาเข้าโรงงานจะได้กิโลกรัมละ 3-5 บาท ภายในหนึ่งปีเกษตรกรจะสามารถปลูกหัวไชเท้าได้ 1-2 ครั้ง แล้วแต่จำนวนปริมาณน้ำที่มี และสภาพอากาศ เพราะหัวไชเท้าจะไม่สามารถปลูกได้ในช่วงที่สภาพอากาศร้อนจัด หรือมีฝนตกมากเกินไป
สำหรับคุณประโยชน์ของไชเท้าหัวไชเท้า มีสรรพคุณที่หลากหลายในการบำรุงและป้องกันโรคอาทิเช่น ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวพรรณ ,การลดน้ำหนัก ,ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย,แมลงสัตว์กัดต่อยสามารถบรรเทาอาการคันลดการเจ็บ ปวด,โรคดีซ่าน , โรคริดสีดวงทวาร , ความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะ , หัวใจและหลอดเลือด, ความดันโลหิตสูง,แก้ไข้,โรคไต,โรคเบาหวาน ,โรคมะเร็ง และโรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
……………………………………………………………..
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
สมชาย เกตุฉาย
ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ