ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้ออกลานตระเวนออนไลน์จนทราบถึงความเดือนร้อนจากประชาชนซึ่งถูกคนร้ายใช้กลอุบายโพสต์หลอกขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand,Triumph-Thailand เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อคนร้ายรายนี้ ทั้งอดีตและปัจุบัน มูลค่าความเสียหาย 3 ล้านบาท จนมีการตั้งกลุ่มทางโซเชี่ยล รวมพลคนถูกนายกฤษณะ โกงเงิน มีสมาชิกกว่า 200 คน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 19.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่,พ.ต.อ.นิวัตน์ พึ่งอุทัยศรี,พ.ต.อ.กมล นุ่มหอม รอง ผบก สส.บช.น.,พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น,พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.,พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนติดตามจับกุมตัว
นายกฤษณะฯ อายุ 31 ปีที่อยู่ 66/232 หมู่ 5 ตำบลบางเตย อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ จ.178/2565 ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2565
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่ามกันฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมิได้กระทำต่อประชาชน” โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณกลางซอย 4/1 ภายในหมู่บ้านคันทรีพาร์ค 15 ตำบล สามโคก อำเภอสามโคก ปทุมธานี
กล่าวคือ สืบเนื่องมาจากการแนวทางสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมการก่อเหตุของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุข้างต้นคือ นายกฤษณะ เข็มทอง หรือนิว คนสามโคก จึงได้ตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรากฏพบว่า ณ ปัจจุบันนายกฤษณะ เข็มทอง ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวน 5 หมายจับ ประกอบด้วย
1) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุพรรณบุรี ที่ จ.178/2565 ลงวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่ามกันฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมิได้กระทำต่อประชาชน” ท้องที่ สภ.ทุ่งคลี ภ.จ.สุพรรณบุรี
2) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนครไทย ที่ 50/2565 ลงวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” ท้องที่ สภ.นครไทย ภ.จ.พิษณุโลก
3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.109/2565 ลงวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” ท้องที่ สภ.ตลุกดู่ ภ.จ.อุทัยธานี
4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 289/2565 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งขอมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ท้องที่ สภ.เหนือคลอง ภ.จ.กระบี่
5) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดระนอง ที่ จ.115/2565 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ท้องที่ สภ.กะเปอร์ ภ.จ.ระนอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตามหมายจับและอายัดตัวดำเนินคดีตามกฎหมายตามหมายจับที่ยังต้องการตัวให้ครบถ้วน ประกอบกับตรวจสอบพยานหลักฐานที่ชุดสืบสวนเชื่อว่าจะสามารถพิสูจน์ทราบถึงความเชื่อมโยงกับคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นตามที่มีผู้เสียหายโพสต์แจ้งเตือน/ร้องเรียนในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand,Triumph-Thailand
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่ารับสารภาพตามข้อกล่าวหาตามหมายจับ พร้อมให้ข้อมูลว่าตนเริ่มมีพฤติกรรมโพสต์หลอกขายสินทางทางออนไลน์มาตั้งแต่ประมาณปี 2553 โดยเริ่มจากการหลอกขายโทรศัพท์มือถือที่ไม่ตรงกับคำสั่งซื้อของลูกค้า ในเว็บไซต์ siamphone ( https://www.siamphone.com/ ) จนมาถูกจับกุมในข้อหา “ฉ้อโกง” เมื่อช่วงปลายปี 2554 ครั้งนั้นถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากตนให้การรับสารภาพศาลจึงลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน โทษ 1 ปี 6 เดือนให้รอลงอาญา 2 ปี ต่อมาปี 2555 ถูกจับกุมในข้อหา “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ท่าช้าง ภ.จ.สิงบุรี ครั้งนี้ถูกตัดสินจำคุก 2 ปี 9 เดือน หลังพ้นโทษได้หลอกขายอะไหล่รถยนต์ในเพจ/กลุ่ม เฟซบุ๊ก ต่างๆ กว่า 50 กว่ากลุ่ม เช่น กลุ่ม BMW F10 & Series 5 (Thailand),กลุ่ม ซื้อขาย เต็นท์บนหลังคารถ เต็นท์พื้นสนาม อุปกรณ์แคมป์ปิ้งราคาแบ่งปัน,กลุ่ม BMW X1 E84 Club Thailand,กลุ่ม โตโยต้า ไทเกอ ดีโฟดี,กลุ่ม ซื้อขายอะไหล่ ฮุนได H1 และรถ H1 มือสอง,Coleman Thailand ห้องซื้อ-ขาย,HILUX TIGER AND SPORT CRUISER 4X4 CLUB THAILAND (พูดคุย สอบถาม),Range Rover P3 Thailand,กลุ่ม ชมรม คนรักรถจิ๊ปทหาร ซื้อ – ขาย,Haval H6 Club Thailand โดยใช้บัญชีธนาคารในนามชื่อบัญชีธนาคารของตนเอง กว่า 14 บัญชี ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย 8472003832,ธนาคารกรุงไทย 7800274926,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 020207033092,ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต 8472004020,ธนาคารออมสิน 020388274662,ธนาคารซีไอเอ็มบี 7012214580,ธนาคารออมสิน 020390493839,ธนาคารออมสิน 020393045321,ธนาคารกสิกรไทย 0861366162,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 5741172893,ธนาคารไทยพาณิชย์ 4300765265,ธนาคารยูโอบี 3043968589,ธนาคารเกียรตินาคิน 2005004502,ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย 0022217782
ล่าสุดรับสารภาพว่าเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “อ๊อฟ แลนพีสามแปด (คุณอ๊อฟฯ)” เข้าไปโพสต์หลอกขายอะไหล่รถจักรยานยนต์ Triumph เช่น ท่อไอเสีย ไฟเลี้ยว กันตก เบาะ ในกลุ่ม Triumph Scramber Club Thailand,Triumph-Thailand โดยใช้บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา เลขที่บัญชี 8014647871 ชื่อบัญชี นายธนพลฯ และบัญชีธนาคารธนชาตทหารไทย เลขที่บัญชี 6342526578 ชื่อบัญชีนายไพรสนฯ และบัญชีอื่นๆ ซึ่งได้ไปเช่ามาเพื่อใช้รองรับเงิน จากกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายบัญชีธนาคาร เช่น กลุ่ม “ดีลงาน/บัญชี/ซื้อ-ขาย”,กลุ่ม “ซื้อ ขาย บันชี ธนาคาร”,กลุ่ม “ซื้อขาย บัญชีธนาคาร ใน กทม.” รวมทั้งซื้อผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “Noone Champ”,ชื่อบัญชี” อยากเป็นคนที่ใช่ ในวันที่เทอเจ็บ”,ชื่อบัญชี “Pueng Noi” โดยเสียค่าใช้จ่ายในการเช่าบัญชีประมาณ 900 บาท โดยจะได้ทั้งเลขบัญชีธนาคารและรูปถ่ายบัตรประจำตัวชาชนของเจ้าของบัญชีมาเพื่อใช้ในการรองรับเงินที่หลอกได้จากผู้เสียหาย
จากการก่อเหตุตั้งแต่ปี 2553 ถึงปัจจุบันผู้ต้องหารับว่าได้เงินจากการก่อเหตุมากกว่า 3,000,000 (สามล้านบาท) เงินที่ได้ส่วนใหญ่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในครอบครัว รวมทั้งซื้อสิ่งของที่ตนอยากได้
เมื่อตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีรวมทั้งหมด ทั้งที่เคยถูกจับกุมได้ และยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี จำนวนรวม 13 คดี ประกอบด้วย
-คดีที่ 1 ปี 2553 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ท่าศาลา สถานะรอออกหมายจับ
-คดีที่ 2 ปี 2554 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.คลองห้า สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 3 ปี 2555 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ท่าช้าง สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 4 ปี 2555 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.พังโคน สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 5 ปี 2555 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.เถิง สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 6 ปี 2555 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สน.พญาไท สถานะควบคุมตัว/ถอนหมายจับ
-คดีที่ 7 ปี 2556 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ประตูน้ำจุฬา สถานะรอออกหมายจับ
-คดีที่ 8 ปี 2556 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.สามชุก สถานะควบคุมตัว/ไม่ได้ออกหมายจับ
-คดีที่ 9 ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่ามกันฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยมิได้กระทำต่อประชาชน” ท้องที่ สภ.ทุ่งคลี สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้
-คดีที 10 ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” ท้องที่ สภ.นครไทย สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้
-คดีที่ 11 ปี 2565 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” ท้องที่ สภ.ตลุกดู่ สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้
-คดีที่ 12 ปี 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งขอมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ท้องที่ สภ.เหนือคลอง สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้
-คดีที่ 13 ปี 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ท้องที่ สภ.กะเปอร์ สถานะหมายจับมีผลบังคับใช้
ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำหนังสือประสานเพื่อให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบแต่ละคดีทำการอายัดตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติอย่างหลงเชื่อกลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ เสนอขาย หรือชักชวนลงทุนในด้านต่างๆ แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน