วันที่ 29 ธันวาคม 2565 เวลา 00.20 น.
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม จุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถนนสนามกีฬาเทศบาล นครเชียงใหม่ พบ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุนี ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก อยู่ปฏิบัติหน้าที่เรียบร้อย พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ได้มอบสิ่งของให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และได้มอบนโยบายและข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชา ดังนี้
1.การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลักด้านความปลอดภัยทางถนน ( 10 รสขม. ) โดยเฉพาะข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ขับรถย้อนศร และในกรณีเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ที่ไม่สามารถตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ด้วยการเป่าลมหายใจได้ ให้พงส. ขอให้แพทย์ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ทุกราย โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลที่อาจเป็นผู้ขับขี่ซึ่งอยู่ในภาวะหมดสติ หรือได้รับอันตรายแก่กายจนไม่สามารถให้ความยินยอมได้
2.การตั้งจุดตรวจ (จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์) ให้ถือปฏิบัติตามหนังสือ ตร. ที่ 0007.34/681 ลง 3 มี.ค.64 อย่างเคร่งครัด ลงข้อมูลในระบบ PTM และ TPCC ให้ครบถ้วน มีอุปกรณ์มาตรฐานประจำจุดตรวจ ใช้เสื้อสะท้อนแสงตามแบบที่ ตร. กำหนดให้ถูกต้องครบถ้วน
3.เน้นการมีส่วนร่วมและบูรณาการการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนในพื้นที่เพื่อควบคุมและลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งด้านคน ถนน ยานพาหนะ และสิ่งแวดล้อม ให้เหลือน้อยที่สุด และใช้กลไกของศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ในแต่ละระดับขับเคลื่อนตามนโยบายของ ตร.
4.เนื่องด้วยช่วงเวลาเทศกาลหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน เครือข่ายผู้ค้าผู้ลำเลียงยาเสพติดมักแฝงตัวในช่วงหยุดยาวมาในลักษณะนักท่องเที่ยวหรือบุคคลที่เดินทางข้ามจังหวัด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด พร้อมกันนี้ให้อำนวยความสะดวกการจราจรและความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไปในคราวเดียวกัน
- เน้นย้ำการยกระดับการให้บริการประชาชนเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยข้าราชการตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจของการให้บริการที่ดี สุภาพให้เกียรติประชาชน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความไม่ประมาทเสมอชีวิต ดูแลอำนวยความยุติธรรมและให้บริการประชาชนด้วยจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร และในช่วง 7 วันอันตรายนี้จะเน้นความผิดเกี่ยวกับการเมาแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถเร็วกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถย้อนศร ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดความสูญเสีย และช่วงก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการให้ความรู้ สร้างความตระหนักรู้ มีการแจ้งเตือนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทราบเพื่อจะได้มีความระมัดระวังในการเดินทางอันเป็นการป้องกันอุบัติเหตุจราจรทางบก ทั้งนี้ยังได้สั่งการให้ ผู้บังคับการและรองผู้บังคับการที่ดูแลงานจราจร ของตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค 5 ทั้ง 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน ออกทำการตรวจเยี่ยมจุดตรวจทั้ง 123 จุดตรวจ ใน 159 สถานีในสังกัดให้เป็นไปตามระเบียบและคำสั่ง นอกจากนี้ยังมีการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร จุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อีก 180 จุด มีจุดอำนวยความสะดวกให้บริการพี่น้องประชาชนร่วมกับภาคีเครือข่ายตามเส้นทางหลักเส้นทางรองอีก 350 จุด กระจายไปทุกพื้นที่ ส่วนในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีปริมาณนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากนั้น ได้สั่งการให้สถานีตำรวจที่มีพื้นที่รับผิดชอบจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจร ป้ายเตือนจุดอันตรายต่างๆ และขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นในความพร้อมของตำรวจภูธรภาค 5 และตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดทั้ง 8 แห่งที่จะให้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้